ในอุตสาหกรรมแฟชั่นยอมรับเลยว่า ณ ปัจจุบันมีความต้องการนายแบบ นางแบบ ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ รูปร่าง ส่วนสูง หรืออายุ และแบรนด์ส่วนใหญ่ก็เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับความหลากหลายนี้ด้วยเช่นกัน
อารอน ฟิลิป เด็กชายผู้เกิด และเติบโตบนหมู่เกาะแอนติกา และบาร์บูดา ซึ่งเป็นประเทศเกาะตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนตะวันออก ก่อนที่จะย้ายมายังสหรัฐอเมริกา เขาโตมาพร้อมภาวะสมองพิการ จนส่งผลต่อความผิดปกติทางร่างกาย ซึ่งเขาก็มีความฝันเหมือนกับหลายคนที่อยากจะเป็นเซเลบริตี้แบบเดียวกันกับ ริฮานน่า และเป็นนางแบบเช่นเดียวกันกับ เคท มอสนา และ นาโอมิ แคมป์เบล ผู้เป็นหนึ่งคนที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเขามากที่สุด
อารอน เริ่มทำอาชีพนางแบบเมื่ออายุได้ 16 ปี ตอนที่เขายังเป็นเพียงนักเรียนชั้นมัธยมต้น และเมื่อปี 2017 เขาใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างชื่อให้ตัวเอง เขาทวีตข้อความว่า “ตรงๆ นะ ถ้าฉันถูกทาบทามไปเป็นนางแบบ พวกเธอจบ!!! และพวกเธอที่ฉันหมายถึงคือโลกนี้ ฉันคือความหลากหลายของจริง! สนใจมะ!?” และข้อความดังกล่าวกลายเป็นไวรัลดังทั่วอินเตอร์เน็ต
ส่งผลให้ อารอน ได้เซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งชื่อดังอย่าง Elite Model Management ซึ่งเป็นเอเจนซี่เดียวกับ เบฮาติ พรินส์ลู ภรรยาของ อดัม เลอวีน และ ซูจูปาร์ค ที่ปรากฎตัวบ่อย ๆ ในแคมเปญ Chanel แม้ว่า อารอน จะไม่ใช่นางแบบผู้พิการคนแรก แต่ อารอน คือ นางแบบทรานส์ผิวสีผู้พิการคนแรก
อารอน เป็นคนเรียบง่าย สง่างาม และคิดบวก อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกของอารอนมาตัดสินตัวเขา เพราะสุดท้ายแล้ว อารอน ก็เป็นเพียงวัยรุ่นคนนึงที่หลงใหลในแฟชั่น รักงานศิลปะ และชอบ Charli XCX เท่านั้น และ อารอน ยังพร้อมไปด้วยสังคมที่สวยงามบนโลกอินเตอร์เน็ต เขารู้สึกว่าเป็นหนี้โลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะที่เขามีทุกวันนี้ได้ก็เป็นผลมาจากโลกออนไลน์นั่นเอง และเขากำลังพิจารณาสมัครเข้ามหาวิทยาลัยซักแห่ง เพื่อเรียนถ่ายภาพแฟชั่น หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม
การเข้าร่วมกับสังกัดโมเดลลิ่งชื่อดังในครั้งนี้ มันให้เขามีเป้าหมายที่จะทำให้ภาพลักษณ์ และตัวตนของกลุ่มคนพิการ คนผิวสี คนข้ามเพศเป็นที่ยอมรับ และเป็นเรื่องปกติในวงการแฟชั่น และสังคมโลก เขาสนับสนุน LGBTQ + และสิทธิของผู้พิการ ว่าแฟชั่นไม่ควรมีการแบ่งแยก หรือมีช่องว่างใดๆ
“เป้าหมายของฉันจริงๆ คือการเปลี่ยนความเข้าใจของทุกคนว่าพวกเรา ผู้พิการ ทรานส์ เกย์ เลสเบี้ยน หรือเพศไหนก็ตามคือคนปกติ เพื่อที่พวกเราจะสามารถทำงาน มีตัวตน และมีคุณค่าในอุตสาหกรรมแฟชั่น และโลกใบนี้”
“เราอยู่ในโลกแฟชั่นที่มีแค่มาตรฐานเดียวมาตลอด พิมพ์นิยมเดียวที่ทำเงินได้ แต่ตอนนี้เรามาถึงยุคใหม่แล้ว ยุคที่คนไม่ว่ามีรูปร่างแบบไหนหรือเป็นเพศไหนควรได้รับการยกย่อง เป็นที่ต้องการ และสามารถทำเงินได้” อารอน กล่าว
ในส่วนของการร่วมงานกับ Moschino ในเคมเปญโฆษณาคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว 2020 อารอน ปรากฎตัวในกระโปรง pannier สไตล์มารี อองตัวเน็ตต์ รองเท้าบูทส้นสูงรัดเชือก แจ็คเก็ตหนัง ถุงมือ และเสื้อฮู้ดสีเทา
การได้ขึ้นหน้าแคมเปญ Moschino ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ร่วมกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Moschino และเขายังบอกอีกว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นที่คนเคยด้อยโอกาสจะได้มีที่ยืนมากขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ฉันมีความสุขมาก ๆ และฉันหวังว่าทุกคนจะมีความสุขเหมือนกับฉัน”
“เพราะว่าฉันเป็นคนผิวสี คนข้ามเพศ และพิการฉันจึงรู้สึกตื่นเต้น เมื่อถึงจุดหนึ่งทำให้รู้สึกว่า ‘โอ้ว้าวอารอนเป็นเหมือนกับปริศนา’ แทนที่จะเป็น ‘อารอนเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีความฝัน’
และในอนาคตสำหรับคนอื่น ที่มาอยู่ในจุดจุดเดียวกับฉัน ฉันไม่ต้องการให้พวกเขาเปรียบเทียบตัวเองกับฉัน อยากให้คิดว่าฉันอยากจำทำให้สิ่งนี้ และฉันก็ไม่กลัว” อารอนกล่าว