รู้จัก IOC @วังจันทร์วัลเลย์ ฐานที่ตั้ง EECi กับเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม

 

การเข้ามาพัฒนาพื้นที่ 3,454 ไร่ ในตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง จนเกิดเป็นโครงการ “วังจันทร์วัลเลย์” ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กลุ่ม ปตท. มีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวภายใต้วิสัยทัศน์ Smart Natural Innovation Platform ที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมที่เป็นเลิศ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม รองรับการทำงานและการอยู่อาศัยได้อย่างครบครัน เพื่อเป็น Smart City เมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศ เป็นฐานที่ตั้งสำคัญของเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation; EECi) ส่งเสริมนวัตกรรมแบบครบวงจร เป็นแหล่งวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ตามนโยบาย Thailand 4.0

 

วังจันทร์วัลเลย์” ประกอบด้วยหลายโซน ซึ่งส่วนสำคัญเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะก็คือ พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) โดยจุดนี้เป็นที่ตั้งของอาคารกลุ่มนวัตกรรม EECi ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา 4 เมืองนวัตกรรม ประกอบด้วย เมืองนวัตกรรมชีวภาพ (BIOPOLIS), เมืองนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (ARIPOLIS), เมืองนวัตกรรมด้านการบินและอวกาศ (SPACE INNOPOLIS) และ เมืองนวัตกรรมอาหาร (FOOD INNOPOLIS) นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานจากภาครัฐ บริษัทในกลุ่ม ปตท. และภาคเอกชนอื่น ๆ เข้าร่วมพัฒนาพื้นที่อีกด้วย

 

 

ส่วน “ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ” (Intelligent Operation Center: IOC) ก็เป็นหนึ่งในอาคารในพื้นที่พัฒนานวัตกรรม อาคาร IOC นี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมระบบทั้งหมดด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อยกระดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด

 

มองจากภายนอก IOC เป็นอาคารปฏิบัติการ 3 ชั้น คอนเซ็ปต์การออกแบบ อยู่ภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มีพื้นที่ใช้สอยราว 3,700 ตารางเมตร พื้นที่ดาดฟ้าประมาณ 1,300 ตารางเมตร มีการวางโครงข่ายเชื่อมโยงกับระบบอัจฉริยะต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ต่อยอดในเชิงธุรกิจ

 

นอกจากนี้การออกแบบยังเป็นการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล (Universal design) เอื้อต่อการใช้งานของผู้พิการ และการก่อสร้างตามมาตรฐาน LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design ในระดับ Certified ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ถูกนำมาใช้ประเมินการออกแบบอาคารเพื่อเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นระบบอาคารเขียวที่ถูกนำมาใช้ทั่วโลก โดยตัวอาคารใช้อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ระบบปรับอากาศและระบบไฟส่องสว่างชนิดประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ห้อง Server ชนิดประหยัดพลังงาน สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ เป็นต้น

 

ขณะนี้การก่อสร้างและการวางระบบต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์ครบ 100% แล้ว และเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ผ่านมา

 

 

สำหรับพื้นที่ใช้สอย 3,700 ตารางเมตร ด้านในตัวอาคาร แบ่งการใช้งานอย่างคุ้มค่า ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ ห้องประชุม ซึ่งทั้งหมดควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะ โดยห้องควบคุมปฏิบัติการ (Control Room) ที่แสดงภาพที่ส่งจากระบบปฏิบัติการต่าง ๆ บนวิดีโอวอล (Video Wall) สูง 2.7 เมตร และยาว 14.5 เมตร (จอ LED ขนาด 55 นิ้ว จำนวน 48 ชุด) โดยมีพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมและสั่งการระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น SCADA : การตรวจสอบสถานะ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบน้ำเสีย, ระบบตรวจสอบและการทำงานของอุปกรณ์งานระบบอาคาร เช่น เครื่องปรับอากาศ ลิฟต์ ไฟส่องสว่าง, การแสดงผลควบคุมและสั่งการระบบไฟตามถนน ทางเดิน, การแสดงผลควบคุมและสั่งการระบบ CCTV ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ และอื่น ๆ

 

 

 

สำหรับไฮไลต์อีกพื้นที่หนึ่งก็คือ Smart Meeting Room ห้องประชุมจุได้ประมาณ 40 ที่นั่ง และมีสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนี้

 

  • ระบบประชุมทางไกล พร้อมกระจกไฟฟ้าเปลี่ยนสถานะเป็นใสหรือขุ่นเพื่อให้ผู้ประชุมสามารถมองลงมาที่ห้อง Control Room ได้
  • จอ Video Wall แบบ 3×3 ขนาดจอ 55 นิ้วและจอแสดงผลขนาด 75 นิ้ว 2 ชุด
  • จอ Smart Touch-screen Interactive Display ขนาด 70 นิ้ว สามารถเขียนหน้าจอและบันทึกลงคอมพิวเตอร์ หรือส่งทางอีเมล์ได้
  • แสดงผลบนจอภาพโดยการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับคอมพิวเตอร์ Tablet โทรศัพท์มือถือ
  • สั่งงานอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยเสียงหรือระบบไร้สายผ่าน Tablet เช่น ลำโพง สวิตช์ควบคุมไฟแสงสว่าง

 

 

ปัจจุบัน วังจันทร์วัลเลย์ ถือเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของประเทศ และด้วยระบบนิเวศนวัตกรรมที่เป็นเลิศ และแผนพัฒนาระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ Smart City Thailand เพื่อยกระดับขีดความสามารถของไทย พร้อมทั้งรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบาย Thailand 4.0 ต่อไป

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.matichon.co.th/advertorial/news_2573562

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *