สำนักงานประกันสังคม มอบสิทธิขั้นพื้นฐานให้แก่สมาชิกประกันสังคมที่ประชาชนทั่วไปควรจะได้รับ ทั้งเจ็บป่วย อุบัติเหตุ คลอดบุตร ว่างงาน นอกจากนี้ยังได้สิทธิกรณีทุพพลภาพ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิทธิที่ควรจะได้รับอีกด้วย วันนี้ TNN ขอพาทุกคนเข้าไปเจาะลึกสิทธิทุพพลภาพของประกันสังคมว่าจะได้รับสิทธิอะไรกันบ้าง
ทุพพลภาพ หมายถึง
การสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะ หรือร่างกายหรือสูญเสียภาวะปกติของจิตใจ จนทำให้ความสามารถในการทำงานลดลงถึงขนาดไม่อาจประกอบการงานตามปกติได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนด ดังนี้
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสิทธิกรณีทุพพลภาพ
– เป็นผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนทุพพลภาพ
ประโยชน์ทดแทนที่จะได้รับ มีดังนี้
1. เงินทดแทนการขาดรายได้
– กรณีทุพพลภาพรุนแรง ได้รับในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
– กรณีทุพพลภาพไม่รุนแรง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาตามประกาศฯกำหนด
2. ค่าบริการทางการแพทย์ ดังนี้
กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลของรัฐ
– ผู้ป่วยนอก จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น
– ผู้ป่วยใน จ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลคำนวณตามกลุ่มวินิจฉัยโรค (DRGs)
กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลของเอกชน
– ผู้ป่วยนอก จ่ายเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท
– ผู้ป่วยใน จ่ายเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท
3. ค่ารถพยาบาลหรือค่าพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพกรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ เหมาจ่ายไม่เกินเดือนละ 500 บาท
4. ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเมื่อมีมติให้เป็นผู้ทุพพลภาพ
5. ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพและเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานของสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ทุพพลภาพตามหลักเกณฑ์ประกาศฯกำหนด
ค่าทำศพ
1. กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตาย ผู้จัดการศพมีสิทธิได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท
2. เงินสงเคราะห์กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตายผู้มีสิทธิได้รับดังนี้
– ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 10 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยสองเดือน
– ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยหกเดือน
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้ขอรับผลประโยชน์ทดแทนมีดังนี้ (กรณียื่นคำขอฯเพื่ออนุมัติให้เป็นทุพพลภาพ)
– แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-01)
– ใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าเป็นบุคคลทุพพลภาพ
– สำเนาเวชระเบียน
– สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน มีดังนี้
ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
หลักฐานเพื่อขอรับค่าอวัยวะเทียม/อุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคกรณีทุพพลภาพ มีดังนี้
– แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-01) หรือ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีอวัยวะเทียม อุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค (สปส. 2-09)
– ใบเสร็จรับเงิน
– ใบรับรองแพทย์ (ให้แพทย์ระบุประเภทอวัยวะเทียม/อุปกรณ์ฯที่ใช้)
– หลักฐานอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติม
หลักฐานขอรับค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ (กรณีผู้ทุพพลภาพเป็นผู้ยื่นเรือง) มีดังนี้
– แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01
– ใบรับรองแพทย์
– ใบเสร็จรับเงิน
– หลักฐานอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติม
หลักฐานที่ใช้เพื่อขอรับค่ารถพยาบาล/พาหนะรับส่ง/ (กรณีทุพพลภาพเป็นผู้ยื่นเรื่อง) มีดังนี้
– แบบคำขอรับค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพกองทุนประกันสังคม สปส. 2-01
– ใบรับรองแพทย์
– หลักฐานอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติม
โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน มีดังนี้
- 1. ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมใกล้เคียง
- 2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐาน นัดตรวจร่างกายผู้ประกันตนเพื่อประเมินการสูญเสีย โดยแพทย์ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมและเสนอคณะกรรมการการแพทย์เพื่อพิจารณาอนุมัติ
- 3. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาแก่ผู้ประกันตนที่ยื่นคำขอฯ
- 4. พิจารณาสั่งจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพรุนแรงเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
- **กรณีทุพพลภาพไม่รุนแรงจะพิจารณาสั่งจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาตามประกาศกำหนด ซึ่ง- สามารถโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนได้
- 5. กรณีผู้ทุพพลภาพมีความจำเป็นที่จะขอรับเป็นเงินสดหรือธนาณัติ ให้แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8100 มือถือ 09-9394-4795
ขอขอบคุณข่าวสารจาก https://www.tnnthailand.com/news/social/97562/