ผู้พิการ การเดินทาง ความเท่าเทียม

จากกรณีผู้พิการ 430 คน รวมตัวกันฟ้องกรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ดำเนินกิจการในด้านวิศวกรรมจราจรการขนส่ง การควบคุมอาคาร การสาธารณูปโภค และการใช้สาธารณูปการ โดยมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รับสัมปทาน

แต่กลับไม่จัดทำลิฟต์ขนส่งผู้พิการทั้ง 23 สถานี ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาไว้เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 ให้ กทม. ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ผ่านมา 5 ปีกว่าแล้ว การก่อสร้างและติดตั้งลิฟต์กลับทำได้เพียงแค่ 18 สถานีเท่านั้น จึงมีคำสั่งให้กรุงเทพมหานคร ชดใช้ค่าเสียหายต่อผู้ฟ้องคดีเฉพาะที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้งหมด 25 คน เป็นเงินคนละ 5,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นค่าเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 และให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา คือวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ครบเส้นตาย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

การได้รับเงินชดเชยไม่ใช่จุดจบของปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะในปัจจุบันผู้พิการยังต้องเผชิญกับความไม่สะดวกในการเดินทางหลายประการ ปัญหาที่ผู้พิการเจอมาตั้งแต่ปี 2547 หลังรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ อาทิ บางซื่อ กำแพงเพชร ลาดพร้าว รัชดาภิเษก สุทธิสาร ห้วยขวาง วัฒนธรรม ลิฟต์เข้าออก MRT มีเพียงฝั่งเดียว การช่วยแบ่งเบาความยากลำบากในการเดินทางจึงกลายเป็นครึ่งๆ กลางๆ เหมือนช่วยแต่ก็ไม่สุด ผู้พิการที่ทำงานอีกฟากยังต้องนั่งรถแท็กซี่อ้อมไปอยู่ดี กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องควักเนื้อ เพราะระบบสาธารณะไปไม่ถึง

อีกปัญหาพื้นฐานที่แก้ไม่จบ คนธรรมดาเดินยังลำบาก นับประสาอะไรกับคนพิการ นั้นคือ ทางเท้า นอกจากตัวหนอนที่ไม่ได้ทำมาเพื่อนำทางคนพิการแล้ว สิ่งกีดขวางก็ยังเต็มทางเท้า อีกทั้งปัญหาคนฝ่าฝืนกฎหมายขับขี่บนทางเท้า ยิ่งตอกย้ำความไม่ปลอดภัย และความสะดวกในการใช้ชีวิตของคนพิการ

ผู้พิการ คือ ประชาชน มีสิทธิได้รับผลประโยชน์ การดูแลไม่ต่างจากคนทั่วไป วันนี้ผู้พิการไม่ได้ต้องการเป็นภาระ ขอเพียงแค่ระบบสาธารณะเอื้ออำนวย พวกเขาก็อยากใช้ชีวิตยืนหยัดด้วยตนเอง จึงต้องฝากไปถึง กทม. รัฐบาล ไม่ว่าจะผุดโครงการไหน มีการก่อสร้างอะไร โปรดอย่าละทิ้งพวกเขาเหล่านี้ เพราะการที่พวกเขาออกมาเรียกร้องฟ้องร้องจนชนะคดี ศาลสั่งจ่ายชดเชยคนละ 5,000 กว่าบาท ไม่ได้คุ้มค่ากับเวลา และความสะดวกสบายในการดำเนินที่ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป

ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8100 มือถือ 09-9394-4795

ขอขอบคุณข่าวสารจาก https://news.ch7.com/detail/533206

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *