เป็นเรื่องราวดีๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวของข้าราชการครูหนุ่ม ที่อยู่กทม. ที่พบรักสาวพิการตั้งแต่กำเนิด แต่มากความสามารถทำกราฟิกดีไซน์หาเลี้ยงครอบครัว และอาศัยอยู่ จ.แพร่ และตกลงแต่งงานกัน โดยเขียนเล่าเรื่องราวสุดประทับใจ ไว้
สำหรับ การเดินทางมา จ.แพร่ ครั้งนี้ เนื่องจาก นางฟ้าซาลอน ได้รับ ข้อความ จาก คุณปวีนุช แก้ววงค์ อายุ 29ปี เพศหญิง พิการทางการเคลื่อนไหว เพราะเป็นโรคกระดูกผิดรูปต้องนั่งบนวีลแชร์ตลอด นั่งบนพื้นไม่ได้ เดินไม่ได้มาแต่เกิด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้….ต้องมีคนดูแลตลอด พ่อแม่คอยผลัดกันดูแล…พ่อคอยอุ้ม…แม่คอยอาบน้ำแต่งตัวให้ แต่ก็สู้ชีวิตจนเรียนจบ ปริญญาตรี แต่ ประมาณ 1 ปีมาแล้ว ได้พบรัก กับผู้ชายคนหนึ่ง และจะแต่งงานกัน แต่อยาก มีรูปถ่ายพรีเวดดิ้ง สวยๆ เหมือนกับคู่รักคนอื่นๆ จึงอยากให้ นางฟ้าซาลอน มาแต่งหน้า ทำผมให้ในโอกาสพิเศษนี้
“สวัสดีครับ ผมชื่อเหน่ง อายุ 43 ปี หรือ อาจารย์ไพบูลย์ ผมเป็นข้าราชการครูสอนคณิตศาสตร์ชั้นมัธยม ในโรงเรียนหนึ่ง ที่ กรุงเทพฯ ชีวิตของผมอยู่เป็นโสดมาประมาน 4 ปี หลังจากหย่าร้างกับภรรยาเก่า ชีวิตประจำวันของผมวันๆทำแต่งานและเที่ยว ชีวิตเป็นแบบนี้ทุกวัน จนวันหนึ่ง ถึงจุดอิ่มตัว ที่ผมรู้สึกเหงา และอยากมีใครสักคน ผมเริ่มตามหาความรักผมเปิดยูทูป…ก็ไปเห็นรายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน นางฟ้าไซร์เบอร์ ผมก็กดเข้าไปดูเห็นน้องผู้หญิงนั่งวีลแชร์ ตัวเล็กๆ ที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เธอใช้ความสามารถของเธอเลี้ยงครอบครัวและแถมยัง สามารถสร้างทีมงานคนพิการกราฟฟิก ด้วยตัวของน้องเอง น้องเป็นคนที่เก่งมากในสายตาผม น้องสามารถดูแลพ่อแม่ที่ป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้น
น้องใช้ความรู้ความสามารถหาเงินรักษาพ่อแม่และน้องยังมีอุดุมการณ์ในการช่วยเหลือคนพิการด้วยกัน…..น้องหางานมาให้เพื่อนๆผู้พิการด้วยกันทำ ซึ่งหายากในสังคมปัจจุบันที่จะคิดถึงผู้อื่น ..ซึ่งคนปกติบางคนยังทำแบบนี้ไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกประทับใจในตัวน้องเค้า มันมีหลายอย่างในความรู้สึกในใจผม ทั้งสงสารและรู้สึกอยากดูแล
เมื่อผมดูรายการจบผมเริ่มหาวิธีติดต่อน้องเค้า….ค้นหาทั้งเฟสบุคทั้งไลน์ จนผมไปเจอ เฟส #เจ้าหญิงน้อยบนรถเข็น ผมแอดเฟสบุคไปหาน้อง และเริ่มติดต่อน้องทางไลน์ น้องคุยดีมีมารยาทมาก ปกติผมค่อนข้างเป็นคนคุยทะเล้นตามประสาผม เมื่อแชทคุยกันได้ระยะหนึ่ง ผมก็ขอวีดีโอคอลกับน้อง แต่น้องพยามหลีกเลี่ยงที่จะคุย โดยน้องให้เหตุผลกับผมว่า ปกติไม่วีดีโอคอลกับใครถ้าไม่ใช่ลูกค้า!!!
แต่!! พี่เคยได้ยินไหมครับ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก แล้วสุดท้ายเธอก็รับสายผม ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย หัวใจผมรู้สึกเต้นแรงแบบไม่เป็นจังหวะ ผมสารภาพจากใจเลยครับว่าผมชอบเค้าผมอยากดูแลเค้ามาก เมื่อโทรคุยกันได้หนึ่งเดือน ผมสังเกตุตัวเองว่าผมปรับบุคคลิกตัวเองใหม่ไปมาก มีหลายอย่างในชีวิตที่ผมเปลี่ยนไป โลกผมไม่เหงาอีกต่อไป ทำให้ผมมีความหวังที่จะทำอะไรเพื่อใครสักคน ผมกลายเป็นคนใจเย็นจากเมื่อก่อนผมเป็นใจร้อน และตอนนี้น้องวีทำให้ผมเปลี่ยนอีกอย่างคือ ผมกลายเป็นคนอ่อนโยนมากขึ้น (มากขึ้นจริงๆครับ)เมื่อคุยกันได้ระยะหนึ่ง ผมตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพไปเจอตัวจริงน้องที่ จ.แพร่ ครั้งแรกที่ผมได้เห็นน้อง ผมไม่ได้มองที่แขนขารูปร่างที่ผิดปกติของเค้าเลยสักนิด น้องเป็นผู้หญิงที่สวยและน่ารักมากกว่าผมคิด ผมตกหลุมรักน้องวีมากกว่าเดิม
ผมยอมรับครับว่ารูปร่างหน้าตาของน้องเป็นสเปกผมมาก ตัวเล็กมาก แต่ผมก็เขิลเวลาน้องสบตาผม พูดคุยกับผม ซึ่งคุยทางโทรศัพท์เป็นเวลานาน ก็ยังไม่ช่วยให้ผมหายเขิล
ความพิการของน้องเค้าไม่ได้อยู่ในสายตาผมเลย ตรงข้ามผมอยากดูแลน้องเค้า มากกว่าเดิม ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ได้คิดแบบผม วันแรกที่เจอ ผมขอน้องเป็นแฟนครับ ผมบอกเค้าผมอยากดูแลเค้ามาก ไม่อยากให้เค้าเหนื่อยและไม่อยากให้เค้าทำงานหนัก หลายคนอาจจะคิดว่า ผมไม่โง่ก็บ้า!!!! แต่ผมก็ยืนว่า น้องวี คือเจ้าสาวของผมที่ผมจะแต่งงานด้วย และสัญญากับตัวเองว่า ผมจะดูแลน้องเค้าตลอดไป
เมื่อผมกลับมาจากแพร่ความเหงามาเยือนอีกครั้ง แต่เหงาในที่นี้ ผมเหงาเพราะ ผมคิดถึงน้องเค้ามาก ผมติดต่อน้องทุกวันจนแทบไม่มีวันไหนที่เราไม่ได้คุยกัน ผมคิดทบทวนกับความรู้สึกตัวเองทุกๆวัน และผมก็ตัดสินใจกับความรู้สึกตัวเองว่าผมควรเดินไปตามทางหัวใจตัวเอง คุยกับคุณพ่อของผม พาคุณพ่อไปเยี่ยมน้องวี ที่ จ.แพร่ อีกครั้ง การไป จ.แพร่
ครั้งนี้ไม่ได้ไปแบบธรรมดา ผมเดินทางไปเพื่อให้คุณพ่อไปสู่ขอและหมั้นหมายน้องวีกับคุณพ่อคุณแม่น้องวี ผมโชคดีมากที่คุณพ่อคุณแม่น้องวี ไม่กีดกันความรักของเรา ทางผู้ใหญ่ได้คุยและตกลงกัน ผมกับน้องวี เราจะแต่งงานกันครับ
สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกทุกๆท่านว่า ถ้าเรารักใครแล้วก็ให้ใช้หัวใจของเรานำไปไม่ต้องใช้เหตุผลใดๆ ผมเชื่ออย่างนั้น ผมรักน้องวีโดยที่ผมไม่เคยมองความพิการน้องเป็นอุปสรรคในชีวิตผม การที่ผมได้ดูแลเค้า นั้นแหละครับ คือความสุขของผม “รักโดยไม่มีข้อแม้หรืออุปสรรคใดๆ”
ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8106
ขอบคุณจาก https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_1678538