สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งธนาคารกรุงไทย ให้บริการจ่ายเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านสาขาทั่วประเทศ ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากการกุศล เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัย ผู้ถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถขึ้นได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 เริ่ม 2 พฤษภาคม 2563 โดยในเดือนแรกให้บริการผ่าน 300 สาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังจากนั้นจะให้บริการผ่านทุกสาขาทั่วประเทศ
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้รับความไว้วางใจจาก คุณพชร อนันตศิลป์ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่งตั้งธนาคารเป็นตัวแทน ในการให้บริการรับขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางสาขา ซึ่งธนาคารได้มีการลงนามบันทึกสัญญาให้บริการจ่ายเงินรางวัล ร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ถูกรางวัล ซึ่งธนาคารมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งทรัพยากรบุคคล เครื่องมือที่ทันสมัย ระบบการทำงานที่รัดกุม และมีสาขากระจายในทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 1,100 สาขา โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2563
“ประชาชนที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล นำสลากที่ถูกรางวัลพร้อมบัตรประจำตัวประชาชน มาติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทยด้วยตนเอง ซึ่งสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 ที่ต้องนำไปขึ้นกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารจะจ่ายเงินรางวัลให้ในงวดปัจจุบันที่ออกรางวัล ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัลในงวดนั้น จนถึงเวลา 12.00 น ของวันที่ออกรางวัลในงวดถัดไป โดยคิดค่าธรรมเนียม รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเพียง 1% และค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของมูลค่ารางวัล สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล และคิดค่าธรรมเนียม 1% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% ของมูลค่ารางวัล ในส่วนของสลากการกุศล โดยค่าอากรแสตมป์และภาษี หัก ณ ที่จ่าย ธนาคารจะนำส่งให้กับสำนักงานสลากฯ”
ผู้รับรางวัลสามารถเลือกรับเงินได้หลายรูปแบบ เช่น โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย บัญชีต่างธนาคาร หรือแคชเชียร์เช็ค โดยไม่ต้องจับเงินสด ซึ่งสะดวกและปลอดภัยมาก ลดการเดินทางไปสถานที่ชุมชน ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของไวรัสโควิด -19 ที่กำลังแพร่ระบาด ทั้งนี้ ในเดือนแรก ธนาคารให้บริการเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร รวมประมาณ 300 สาขา และตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ธนาคารให้บริการรับขึ้นเงินรางวัลได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ มีแนวนโยบายในการขยายช่องทางการขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการขึ้นรางวัลมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยบรรเทาปัญหาการนำสลากปลอมมาขึ้นรางวัลด้วย เนื่องจากสาขาของธนาคารกรุงไทยมีศักยภาพ และมีความพร้อมในการตรวจสอบสลากด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่เรื่องการให้บริการจ่ายรางวัลอย่างเคร่งครัด
“ตามกฎหมายผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จะต้องมาขึ้นรางวัลภายใน 2 ปี ไม่เช่นนั้นจะขาดอายุและไม่สามารถขึ้นรางวัลได้อีก ซึ่งสำนักงานฯจะต้องนำเงินรางวัลเหล่านี้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป และขอแนะนำให้ผู้ซื้อสลาก ตรวจสอบรางวัลอย่างรอบคอบเพื่อรักษาประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันสำนักงานสลากฯ ก็ได้มีการพัฒนาช่องทางการตรวจสอบรางวัลผ่านระบบออนไลน์ให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งผ่านทางเว็บไซต์ www.glo.or.th แอพพลิเคชันของสำนักงานฯ GLO Lottery Official สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ Android และ iOS เพียงกรอกตัวเลข หรือสแกน 2D บาร์โค้ด ก็สามารถตรวจรางวัลได้ทันที”
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน และเป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ให้ทำการออกรางวัลของสลากงวดวันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ดังนั้นผู้ที่ซื้อสลากงวดวันที่ 1 เมษายน 2563 จึงขอให้เก็บรักษาสลากไว้อย่างดี เพื่อรอตรวจรางวัลในวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 และหลังการออกรางวัลสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ตามปกติที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และช่องทางธนาคารที่มีการรับขึ้นเงินรางวัล รวมทั้งที่สาขาของธนาคารกรุงไทย สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ วันออกรางวัลที่เลื่อนไปเป็น 2 พฤษภาคม 2563 ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในห้วงเวลา ณ ขณะนั้นด้วย หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป จะมีการประสานกับธนาคารกรุงไทยและธนาคารที่มีการรับขึ้นเงินรางวัลเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/TheGovernmentLotteryOffice/posts/2629554370487722?__tn__=K-R