เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา หากเดินทางเข้าตลาดวิชิตสิน (ตลาดเอกชน) ตัวเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ จะพบเห็น รถสามล้อเครื่อง หรือ ชาวอีสาน เรียนว่า “ รถสกายแล็ป” จอดเข้าคิว เข้าแถว เป็นระเบียบเรียบร้อย ที่หน้าร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายสิบคัน เพื่อรับส่งผู้โดยสาร ใกล้ไกล ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบอาชีพนี้เป็นอย่างดี
กระทั่ง เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) กระจายไปทั่วโลก รวมถึง ประเทศไทย ลามมาถึง จังหวัดอำนาจเจริญ มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย ต่อมา เข้ารับการรักษาไม่นานทั้ง 2 ราย รักษาหายและ กลับบ้านได้ ปัจจุบัน จ.อำนาจเจริญ ผู้ติดเชื้อ โควิด 19 เป็น 0 ราย ทว่า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ยังคง รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ปฏิบัติตามคำแนะอย่างเคร่งครัด เข้มข้น เหมือนเดิม เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ไม่ให้กลับมาระบาดอีกครั้ง
ผลกระทบที่ตามมา คือ ผู้มีอาชีพขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง ที่ตลาดวิชิตสิน ลูกค้าลดลง ขาดรายได้ ทุกวันนี้ มีรถมาจอดเข้าคิวไม่ถึง 5 คัน รวมถึง ประชาชน ขาดรายได้ จึงไม่ออกไปไหน เดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลายคนลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาลคนละ 5,000 บาท คนที่ได้ก็มี เฮ. ส่วนที่ไม่ได้ ก็ต้องรอกันต่อไป
อย่างเช่น นายลำพูน เบ้าเงิน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ที่ 13 ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พิการแขน 1 ข้าง คือแขนขวาพิการ มีอาชีพขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง หรือ ชาวอีสานเรียกติดปากว่า”รถสกายแล็ป “กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ระบาด อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะผู้โดยสารผวากลัวจะติดเชื้อ โรค โควิด 19 จึงไม่กล้าออกจากบ้าน ประกอบกับโยบายรัฐบาล ส่งเสริมให้ประชาชน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ทำให้คนมาว่าจ้างนั่งรถไปทำธุระอื่นๆลดลง วันนี้ไม่มีเงินเข้ากระเป๋าไม้แต่ 1 บาท คือ ไม่มีคนนั่งเลย เคยให้หลานข้างบ้าน ลงทะเยียนขอเงินช่วยเหลือ จำนวน 5,000 บาท ก็ไม่ได้ ล่าสุดครั้งที่ 4 ลงทะเบียนไปแล้ว ยังเงียบอยู่ ก็คงกำลังจัดลำดับอยู่ ถ้าได้เงิน 5,000 บาท จะดีมากเลย เพราะต้องหาเงินเลี้ยงแม่ที่อายุ 83 ปี เพราะก่อนกลับบ้านจะต้องซื้อข้าวไปให้แม่ที่บ้านทุกครั้งและก่อนออกมาทำงานขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง จะต้องหาข้าวให้แม่กินก่อนทุกวัน ซึ่งในครอบครัวมีเพียง 2 แม่ลูกเท่านั้น ซึ่งไม่มีนาให้ทำ ขับรถรับจ้างอย่างเดียว”
นายลำพูน เบ้าเงิน อายุ 49 ปี คนขับรถสามล้อเครื่องรับจ้างหาเลี้ยงแม่ชรา ลูกกตัญญู กล่าวว่า ทุกวันนี้ได้เงินคนพิการ จำนวน 800 บาท พอได้ซื้อกินซื้ออยาก ถ้าถามว่า พอใช้ไหม คงไม่พอใช้แน่นอน ดีกว่าไม่ได้ ซึ่งพิการแขนขวามาแต่กำเนิด แต่ก็พอขับรถรับจ้างได้ ซึ่งก่อนจะมีโรคระบาด โควิด 19 รับผู้โดยสารได้เงินวันละ 500 – 1,000 บาท ถือว่ารายได้ดี แต่มาวันนี้ไม่ได้เงินแม้แต่ 1 บาท ก็เข้าใจภัยธรรมชาติ โรคระบาด ใครไม่อยากให้เกิด แต่ก็เกิด ต้องอยู่กับ โรคโควิด 19 ให้ได้ และต้องยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เมื่อคิดแบบนี้ ทำให้สบายใจและ คลายเครียดลงได้บ้าง
นายลำพูน เบ้าเงิน อายุ 49 ปี ชายพิการ สู้ชีวิต กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีกับไม่ดีเป็นของคู่กัน เป็นสัจธรรม ตั้งแต่โรคโควิด 19 ระบาด ผู้คนหวาดกลัว หวาดผวาไปตามๆกัน เกรงจะติดโรคโควิด 19 และทำตามคำแนะนำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ อย่างเคร่งครัดและเข้มข้น ส่งผลให้จังหวัดอำนาจเจริญ มีผู้ติดเชื้อเป็น 0 และที่ผ่านมา มีผู้ใจบุญ ทำดี เห็นความเดือดร้อน ของประชาชนชาวอำนาจเจริญ นำข้าวกล่องและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมาแจกฟรีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ได้ข้าวกล่องจากผู้ใจบุญเหล่านั้น กินประทังความหิวในแต่ละมื้อและถือไปฝากแม่ชราที่บ้านด้วย
ในยามวิกฤติ เงินไม่เข้ากระเป๋าแม้แต่ 1 บาท ยังมีผู้ใจนำข้าวกล่องมาแจกฟรี และซาบซึ้งในน้ำใจยิ่งนัก สมกับคำกล่าวที่ว่า “คนไทย ไม่ทิ้งกัน”
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก https://www.banmuang.co.th/news/region/189679