พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ทั้ง 6 แห่ง เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใย และทรงให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยพื้นฐาน และการโภชนาการของเด็ก เยาวชน ผู้เจ็บป่วย รวมทั้งผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่ไร้ที่พึ่ง อีกทั้งยังทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่และราษฎรในสถานสงเคราะห์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) ในช่วงเวลานี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร วันที่ 29 เมษายน 2563
วานนี้ (29 เม.ย.) เวลา 08.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ จำนวน 6 แห่ง ดังนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เป็นประธาน เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 354 คน ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี ธีระ เชียงทอง เป็นประธาน เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่คนไข้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 552 คน ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (ชาย) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ คุณจันทนี ธนรักษ์ เป็นประธาน เชิญสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่คนไข้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 612 คน ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (หญิง) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ เป็นประธาน เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 205 คน ณ สถานสงเคราะห์เยาวชน มูลนิธิมหาราช อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี จักรพงษ์ หอมไกรลาศ เป็นประธานเชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 144 คน ณ สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายไพศาล ล้อมทอง เป็นประธาน เชิญสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ที่ไร้ที่พึ่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ จำนวน 631 คน ณ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านๆ มา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งพระราชทานเลี้ยงอาหารแก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันคล้ายวันประสูติ และวันสำคัญต่างๆ มาโดยตลอด
สำหรับในปีนี้ ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงตระหนักถึงราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ รวม 6 แห่ง เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร วันที่ 29เมษายน 2563 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ เด็ก เยาวชน ไว้ใช้ป้องกันการติดเชื้อจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) และด้วยพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อทรงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและบรรเทาความทุกข์ยากของราษฎร รวมถึงเด็ก เยาวชน ผู้พิการทางจิตและพฤติกรรม ผู้ด้อยโอกาส และผู้ที่ไร้ที่พึ่ง ในสถานสงเคราะห์ต่างๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังทรงให้ความสำคัญกับการได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการที่ดี จะได้มีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจที่ดี แจ่มใส และเมื่อกลับไปดำรงชีวิตอยู่ในสังคม สามารถประกอบสัมมาอาชีพได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000044899