นางณัฐสุรีย์ อนุศาสนัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าตนพร้อมนักสังคมสงเคราะห์ และ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม). ตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และสอบข้อเท็จจริง กรณี น.ส.อินทิรา ขันศิลา อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.5 ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ ขอความช่วยเหลือด้านค่าครองชีพ เนื่องจากประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ส่วนกรณีที่แจ้งว่าลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ไม่ผ่านการพิจารณา นั้น จากการสอบข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ร้องฯ ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.63 ปัจจุบันใช้จ่ายในครัวเรือนและใช้หนี้เพื่อนบ้านจนหมดแล้ว อาศัยอยู่บ้านของพี่สาวสามี โดยอยู่กับบิดามารดาสามี และบุตรวัยเด็กเล็ก 2 คน (อายุ 3.6 ปี และ 1.2 ปี) ส่วนสามีต้องโทษจำคุกในเรือนจำสุรินทร์ได้ปีกว่า พี่สาวและพี่เขยสามีไปทำงานก่อสร้างที่ กทม.ส่งเงินมาให้เป็นครั้งคราวๆละ 1,000 บาท ผู้ร้องไม่ได้ทำงาน เพราะต้องเลี้ยงดูบุตรและดูแลมารดาสามีซึ่งพิการอ่อนแรงซีกขวา ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และรูมาตอยด์ รายได้หลักมาจากสวัสดิการต่างๆของรัฐ อาทิ เบี้ยความพิการของมารดาสามี เดือนละ 800 บาท เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดของบุตร 2 คน รวมกันเดือนละ 1,200 บาท บัตรสวัสดิการรัฐรวมกัน เดือนละ 900 บาท บิดาสามีรับจ้างสีข้าวในชุมชน เดือนละประมาณ 600 บาท และเลี้ยงควาย 4 ตัว ครอบครัวไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง มีหนี้เงินล้าน 20,000 บาท (ของบิดาสามี) และยืมร้านค้า 1,200 บาท ที่อยู่อาศัยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคาสังกะสีสันไท สภาพมั่นคงแข็งแรง ประสบปัญหาความเดือดร้อน รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร (ค่านมผง และค่าแพมเพิส) และมารดาสามี (ค่าแพมเพิส) จึงขอความช่วยเหลือ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 2,000 บาท เพื่อช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร โดยการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ร้อง และมอบหมาย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ติดตามให้การช่วยเหลือต่อไป
ขอขอบคุณ http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200520132428506