รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ เสาร์นี้ ตอน ชีวิตใหม่ของ…ลุงอเนก

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ข้อความ

 

ไม่มีคำว่า “สาย” สำหรับการ “กลับใจ” และ “เริ่มต้นใหม่”

 

เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่ลุงอเนก หรือปกรณ์ บินโน ชายวัย 56 ปี ได้หันหลังให้วงการนักเลง แล้วมุ่งหน้าทำมาหากินสุจริต ด้วยการเป็นพ่อค้าขาย ข้าวต้มผัด ตระเวนเร่ขายตามฟุตบาทย่านชิดลม เพื่อเลี้ยงลูกชายวัย 35 ปี ป่วยออทิสติค (พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างเล็กน้อย แต่ต้องมีคนดูแลใกล้ชิด)

ย้อนไปในวัยเด็กลุงอเนก มีชีวิตเติบโตมาในสลัมย่านวัดใหม่พิเรนทร์ ซึ่งในสมัยนั้นยังแวดล้อมไปด้วยอบายมุข ทำให้มีโอกาสเรียนจบแค่ชั้น ป.3 เข้าสู่วงการนักเลงตั้งแต่วัยรุ่น มีประสบการณ์ชีวิตโลดโผน ผ่านตั้งแต่สถานพินิจ คุกตารางมานับครั้งไม่ถ้วน

ด้วยวิถีชีวิตของการเป็นนักเลง ทำให้ลุงอเนกไม่ได้อยู่กับครอบครัว ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ไม่มีที่พำนักพักพิงเป็นหลักแหล่ง เพราะทำผิดกฏหมาย มีภรรยาก็หย่าร้าง จนต้องนำลูกอีก 2 คนไปฝากให้แม่ของตนดูแลตั้งแต่เล็กๆ

ลุงอเนก บอกว่า ในช่วงนั้นเงินที่ได้จากการเป็นนักเลงไม่เคยทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่ว่าจะรายได้จากการคุมบ่อน ทวงหนี้ ฯ แม้จะเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถนำมาสร้างหลักสร้างฐานให้ชีวิตมั่นคงได้ เพราะมักใช้จ่ายหมดไปอย่างรวดเร็ว

และแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยน ลุงอเนกได้ตัดสินใจเลิกเป็นนักเลง หลังจากที่แม่เสียได้ชีวิตลง ลุงจึงคิดว่า อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ด้วยอายุขณะนั้นก็ปาเข้าไปถึง 45 ปี

แต่ชีวิตของ “นักเลง” กว่าจะเปลี่ยนมาเป็น “พ่อค้า” ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ลุงบอกว่า ทดลองค้าขายสุจริตของมาหลายชนิดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เงินทุนก็ร่อยหรอ แต่ไม่เคยท้อ หรือกลับไปเดินเส้นทางนักเลงเหมือนเดิม ทั้งที่มีเพื่อนฝูงในวงการนักเลงมาชักชวนหรือเอาผลประโยชน์มาล่อ

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำมาหากินสุจริตให้ได้ มีวันหนึ่งลุงอเนกได้คิดขึ้นมาว่า สมัยเด็กๆเคยช่วยแม่ทำข้าวต้มผัดอยู่บ้าง เลยไปหาสูตรจากคนแถวบ้านมาทดลองฝึกหัดทำ ใช้เวลาทำเป็นวันๆ ทำอยู่หลายรอบ จนออกมามีรสชาดหน้าตา ที่พอจะขายได้ จึงได้ออกเร่ขายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังจากลุงอเนกได้หันมาค้าขายทำอาชีพสุจริต ก็พบว่า การที่ได้มีชีวิตแบบนี้ แม้จะหนักและเหนื่อย และรายได้น้อย แต่กลับมีความสุขสบายใจกว่าแต่ก่อนมาก เพราะเวลาจะกิน จะนอนก็มีความสุข ไม่ต้องระวังกลัวใครมาปองร้าย และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ทุกวันนี้ลุงอเนก ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายที่ป่วยออทิสติค อย่างมีความสุขในบ้านเช่าหลังเล็กๆ ย่านพรานนก ส่วนลูกสาวคนเล็กแม้จะย้ายออกไปพักที่อื่นใกล้ที่ทำงาน แต่ยังคงแวะมาเยี่ยมเยียนเสมอ

สำหรับอนาคตแล้ว ลุงอเนกมองว่า ด้วยอายุที่มากขึ้นคงไม่มีแรงทำข้าวต้มผัดต่อไปไม่ไหว เพราะขั้นตอนการทำกว่าจะออกขายได้ในแต่ละครั้ง ใช้เวลาทำถึง 2 วัน โดยลุงคิดว่า อยากทดลองเปลี่ยนมาทำขนมกุยช่ายขาย เพราะน่าจะใช้เวลาและแรงน้อยกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ แต่หากจะทำจริงก็ต้องไปฝึกหัดทำและรวบรวมเงินทุนก่อนถึงจะทำได้ สุดท้ายหากไม่มีทุนก็ต้องทำแบบเดิมต่อไป

เราอดถามไม่ได้ว่า “มองกลับมาถึงทุกวันนี้ พึงพอใจกับตัวเองแค่ไหน และไม่คิดจะกลับไปเป็น นักเลง เหมือนเดิมเหรอ ?”


ลุงอเนก ตอบว่า “รายได้ทุกวันนี้แม้จะไม่มาก แต่ได้อยู่กับลูกก็มีความสุข ชีวิตผมถ้าไม่มีลูกคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน ผมตัดสินใจเด็ดขาดเลย เลิก ก็คือ เลิก ให้หวนกลับไป ไม่เอาแล้ว “

ชีวิตของคนย่อมเคยทำผิดพลาด หากสามารถกลับตัวกลับใจแล้ว หันมาทำความดีอย่างจริงจัง หวังว่า สังคมจะให้โอกาส เริ่มต้นเหมือน ชีวิตใหม่ของลุงอเนก ที่ทุกวันนี้ สามารถมีความสุขได้เช่นกัน

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน ชีวิตใหม่ของ…ลุงอเนก
วันเสาร์ ที่ 4 กรกฏาคม นี้ เวลา 9.00-9.30 น.
ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211)

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.facebook.com/KonJingJaimaitor/posts/2600209460203908?__tn__=K-R1.g

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *