“มัลลิกา” จี้ พม.ตรวจสอบการใช้เงินกองทุนส่งเสริมอาชีพผู้พิการ

มัลลิกา เรียกร้องกระทรวง พม.ตรวจสอบการใช้เงินกองทุนส่งเสริมอาชีพผู้พิการ พร้อมเสนอให้แก้ระเบียบเพิ่มเติมเพื่อผู้พิการเข้าถึงการกู้ได้จริงตามสิทธิ

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.com กล่าวว่าหลังจากได้ส่งหนังสือเสนอ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่องการเสนอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการกู้เงินให้คนพิการเข้าถึงได้กู้กองทุนของเขาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนทั่วถึง และเป็นธรรม

นางมัลลิกา กล่าวว่า เงื่อนไขเดิมนั้นได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้พิการว่าเข้าไม่ถึงการกู้เพราะต้องมีการนำข้าราชการหรือสิ่งค้ำประกันเกินตัวของเขาที่จะมีศักยภาพหามาได้จึงทำให้เสียสิทธิ์การกู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพ ซึ่งผู้พิการก็ต้องการดูแลตัวเองให้ได้เช่นเดียวกันกับบุคคลปกติและเมื่อมีกฎหมายและระเบียบตามสิทธิ์ของเขาจึงอยากให้แก้ไขเพื่อให้เข้าถึงได้ใช้อย่างแท้จริง โดยสิ่งที่มูลนิธิมัลลิกาฯ เสนอแก้ไขคือ หลักเกณฑ์การกู้ขอให้นำสิทธิ์ของผู้พิการและสวัสดิการรายเดือนที่เขาได้รับจากรัฐมาเป็นสิ่งค้ำประกันการกู้ได้แทนการหาข้าราชการหรือคนมาค้ำประกัน และแทนการหาบ้านที่ดินอสังหาริมทรัพย์ต่างๆมาค้ำประกันจะทำให้เขาได้สิทธิ์นั้นทั่วถึงกัน เพราะต้องยอมรับว่าผู้พิการย่อมมีศักยภาพด้อยกว่าบุคคลปกติที่จะไปหาผู้คน/สิ่งค้ำประกันเหล่านั้นมาได้

ประธานมูลนิธิมัลลิกาฯ กล่าวว่า ภารกิจกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 มาตรา 23 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งใน สํานักงาน เรียกว่า “กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” เพื่อเป็นทุน สําหรับการใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครองและพัฒนาสมรรถภาพคนพิการ การศึกษาและการ ประกอบอาชีพของคนพิการ รวมทั้งการส่งเสริมและการสนับสนุนการดําเนินงานของ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ โดยให้จัดสรรให้อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง

การให้บริการกู้ยืมเงิน เป็นการบริการคนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ เพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ รายบุคคลรายละไม่เกิน 60,000 บาท ส่วนรายกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย ทั้งนี้ หากมีผู้ประสงค์จะกู้ยืมเงินเกินกว่าวงเงินที่กำหนด ให้มีการพิจารณาเป็นราย ๆ ไป โดยไม่เกิน 120,000 บาท

” สิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงติดตามคือ 1.ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้กู้ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของระเบียบหรือไม่ มีการสวมสิทธิผู้พิการหร่อไม่ 2.ให้แก้ไขระเบียบตามที่เสนอเพื่อให้ผู้พิการตัวจริงได้เข้าถึงและได้กู้ไปประกอบอาชีพได้จริง 3.กระทรวงควรพัฒนาปรับปรุงระเบียบอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ทันยุคสมัยและสามารถรองรับวิกฤติอาชีพผู้พิการจากโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดสรรให้กลุ่มผู้พิการอย่างทั่วถึงทำให้ขาดอาชีพรองรับจำนวนมาก และ 4.ขอให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินกองทุนนี้เพื่อการขยายโอกาสให้กับผู้พิการ ข่อมูลทั้งหมดนี้ภายใต้กฎระเบียบที่ข้าราชการจะต้องสนองภารกิจให้ตรงตามพันธกิจอย่างแท้จริงและโปรดสังเกตชื่อกรม ชื่อกระทรวงด้วยว่าท่านทำงานได้ตามเป้าประสงค์การจัดตั้งกระทรวงหรือไม่” นางมัลลิกา กล่าว

ขอบคุณ… http://www.banmuang.co.th/news/politic/104522

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *