มทบ. 37 จัดพิธีวางพวงมาลารำลึกถึงทหารกล้าผู้เสียสละ ประจำปี 2563

logomain

 

พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพภาคน้อยที่ 3 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาระลึกถึงวีรกรรมผู้เสียสละ และกล่าวสดุดีวีรกรรมผู้เสียสละเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ณ ลานผู้กล้า อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช ถนนหน้าค่าย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563 โดยมี นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงาน เข้าร่วมวางพวงมาลาในครั้งนี้

 

ในครั้งนี้ มณฑลทหารบกที่ 37 ได้จัดกองทหารเกียรติยศเข้าร่วมพิธี มีหมู่ทหารยิงสลุด 9 นัด วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ สำหรับประวัติความเป็นมาของอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความกล้าหาญและความเสียสละด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของทหารผู้กล้าของ หน่วยกองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 7 ค่ายเม็งรายมหาราช ในการออกปฏิบัติราชการ และการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ.2510 เป็นต้นมา เพื่อความสงบสุขของชาวเชียงรายและความมั่นคงของประเทศ

 

โดยเริ่มการก่อสร้างในปี 2520 ใช้เงินจากรายได้การเช่าบูชาเหรียญรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ อำเภอเมืองลำปาง ได้สร้างเสร็จเมื่อปี 2521 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2521 จึงกำหนดให้วันที่ 5 กันยายน ของทุกปี เป็นวันประกอบพิธีวางพวงมาลา และพิธีสดุดีวีรกรรมผู้เสียสละโดยตลอดมา แต่เนื่องด้วยรัฐบาล ประกาศให้วันที่ 4 ถึงวันที่ 7 เป็นวันหยุดชดเชยสงกรานต์ ทำให้ต้องเลื่อนมาจัดในวันที่ 3 กันยายน 2563 ซึ่งตรงกับวันนี้

 

แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า เหล่าทหารหาญในค่ายเม็งรายมหาราช มีเกียรติประวัติในการรบอย่างกล้าหาญ และเสียสละน่าสรรเสริญได้เคยปฏิบัติภารกิจในการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และป้องกันอธิปไตยของชาติในหลายสมรภูมิ เช่น สมรภูมิดอยยาว ดอยผาหม่น อำเภอเทิง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย สมรภูมิดอยผาจิ ผาวัว อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และสมรภูมิเขาค้อ เขาหญ้า อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งหลายท่านได้เสียสละชีวิต หลายท่านบาดเจ็บ และบางท่านพิการทุพพลภาพ จากการเสียสละของนักรบกล้าเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดความสงบสุขในประเทศทำให้เราได้มีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขมั่นคงจวบจนถึงทุกวันนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณ  http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200904174956179

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *