โรคเบาหวาน ภัยเงียบชีวิตยุคใหม่

โรคเบาหวาน ภัยเงียบชีวิตยุคใหม่ thaihealth

 

โรคเบาหวาน มีหลายชนิดแต่ที่พบมากในประเทศไทยและทั่วโลกคือ เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมาพร้อมกับภาวะโรคอ้วน ซึ่งนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต

 

โรคเบาหวาน เคียงคู่มากับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การกินอยู่แบบตามใจปากแต่ไม่ออกกำลังกาย ปล่อยให้ไขมันพอกพูนจนเกิดภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ถ้าใครมีพฤติกรรมเช่นนี้อาจต้องเปลี่ยนมาเดินเข้าออกโรงพยาบาลแน่นอน ยิ่งในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก ผู้ป่วยเบาหวานยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะถ้าติดเชื้อเมื่อไหร่ก็เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าคนปกติ

 

รศ.พญ.นันทกร ทองแตง แพทย์สาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า โรคเบาหวานมีหลายชนิดแต่ที่พบมากในประเทศไทยและทั่วโลกคือเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมาพร้อมกับภาวะโรคอ้วน จากผลสำรวจชี้ว่า เดิมเบาหวานชนิดนี้พบมากในประชากรวัย 60-79 ปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19 แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มเกิดในกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นเพิ่มขึ้น

 

“การใช้เทคโนโลยีสร้างความสะดวกสบายให้ชีวิตทำให้เราขยับร่างกายกันน้อยลง ชีวิตคนวัยทำงานและวัยรุ่นเดิมเคยใช้เวลาในวันหยุดไปเข้าสังคมพบปะผู้คนหรือเล่นสนุกกับเพื่อน ปัจจุบันหลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่ดูโทรทัศน์หรืออยู่บนโลกออนไลน์ พฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปนิยมอาหารที่ซื้อหาได้ง่ายแม้มีรสอร่อยแต่ไขมันและน้ำตาลสูง ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานได้ในอนาคต”

 

สิ่งที่น่าห่วงและถือเป็นภัยเงียบของโรคนี้คือ ในผู้ป่วยโรคเบาหวานเกือบครึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองเป็นโรค โดยเฉพาะในรายที่ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงมาก ยิ่งแทบจะไม่แสดงอาการเลย กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยการเจาะเลือดแล้ว

 

รศ.พญ.นันทกร ระบุว่า ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองป่วยด้วยโรคเบาหวานให้สังเกตอาการง่ายๆ คือ มักดื่มน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะหากต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน น้ำหนักลด ปากคอแห้ง ชาตามปลายมือ ปลายเท้า ไปจนถึงตาพร่ามัว การทำงานของไตไม่ปกติ หรือมีแผลแล้วรักษาไม่หายแน่นอนว่าผู้ที่เสี่ยงกับโรคนี้อันดับแรกๆ คือ  ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน อ้วน หรือมีคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคเบาหวานมาก่อน ผู้มีไขมันในเลือดสูงมีประวัติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือคลอดลูกที่มีน้ำหนักมากกว่า 4 ก.ก. ฯลฯ ใครที่เข้าข่ายเหล่านี้ แนะนำให้รีบรุดไปตรวจสุขภาพโดยเร็ว

 

“สิ่งที่อยากฝากไว้คือในช่วงที่ยังคงมีการระบาดของโควิด-19  แม้สถานการณ์ในไทยดูจะสงบ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน หากไปติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสจะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงกว่าคนปกติ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปสถานที่เสี่ยง ถ้าจำเป็นก็ต้องป้องกันให้มากที่สุด ส่วนผู้ที่ต้องใช้ยารักษาประจำต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมเป็นพิเศษ หากเกิดสถานการณ์ระบาดที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางมารับยาที่สถานพยาบาลได้ ต้องศึกษาช่องทางต่างๆ สำรองไว้ทั้งการรับยาทางไปรษณีย์หรือการรักษาทางไกล”

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจจะไม่มีอาการทรุดหนัก ทุกราย แต่สามารถทำให้ทุเลาหรือรักษาหายได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดน้ำหนักตัวและควบคุมอาหาร ควบคู่ไปกับการใช้ยารักษาตามที่แพทย์สั่ง สิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มต้นมาจากสถาบันครอบครัว ที่ทุกคนร่วมกันสอดส่องดูแลคนในบ้านและผู้ใหญ่ก็ควรทำตัวเป็นแบบอย่างให้เด็ก ส่วนที่โรงเรียนสถานศึกษา ครูอาจารย์ควรหมั่นสำรวจเด็กที่กำลังเริ่มเกิดภาวะ น้ำหนักเกินและดูแลโภชนาการ หน่วยงานภาครัฐควรรณรงค์ให้คนปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบใหม่ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการสกัดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่ให้เพิ่มขึ้น

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.thaihealth.or.th/Content/53184-โรคเบาหวาน%20ภัยเงียบชีวิตยุคใหม่.html

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *