เลขาอนุกมธ.คนพิการชี้ ธรรมศาสตร์ต้องช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หลังปิดร้านยิ้มสู้คาเฟ่

เลขาอนุกมธ.คนพิการชี้ ธรรมศาสตร์ต้องช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หลังปิดร้านยิ้มสู้คาเฟ่

 

ร้านกาแฟยิ้มสู้คาเฟ่ ธรรมศาสตร์ ต้องปิดตัว เนื่องจากหมดสัญญา ด้านเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการคนพิการเรียกร้องให้ธรรมศาสตร์ดูแลช่วยเหลือคนพิการ

 

วันที่ 12 ต.ค. 2563 จากกรณี ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ผู้ก่อตั้งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ซึ่งเป็นร้านกาแฟสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ สาขาภายในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีบาริสต้าเป็นคนหูหนวก โพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ร้านจะปิดตัวลงในเดือนพฤศจิกายน 2563 เนื่องจากเจ้าของสถานที่ได้มอบสัมปทานให้แก่ร้านกาแฟอื่นไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้คนพิการตกงานหลายคน จนเป็นกระแสในสื่อสังคมโซเชียล

 

ต่อมาคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ได้ออกคำชี้แจงว่า กรณีนี้มีคณะกรรมการพิจารณา และได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างโปร่งใส ซึ่งผลการพิจารณาคือ คาเฟ่ อเมซอนได้รับคะแนนมากกว่าร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอให้คณบดีคณะนิติศาสตร์พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

 

ด้านคาเฟ่ อเมซอน โพสต์ชี้แจงในเพจเฟซบุ๊ก คาเฟ่ อเมซอนว่า เนื่องจากมี กระแสข่าวว่าลูกจ้างของผู้ให้บริการรายเดิม ที่เป็นผู้พิการ จะได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ให้บริการรายเดิม อาจจะไม่ได้ต่อสัญญา คาเฟ่อเมซอน ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าว และขอถอนตัวจากการดำเนินการที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ติดต่อแจ้ง ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ว่า จะจัดหาพื้นที่ใหม่ในทำเลที่ดีและเหมาะสมภายในท่าพระจันทร์เพื่อเป็นที่ตั้งใหม่ของร้านต่อไป

 

ล่าสุด นายสุรพงษ์ กองจันทึก เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษาด้านผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชาติพันธุ์ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้เข้าไปเยี่ยมร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สอบถามพนักงานประจำร้านได้รับแจ้งว่า ต้องหมดสัญญาและจำออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 แม้คู่แข่งจะถอนตัว แต่ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ก็ไม่ได้ต่อสัญญา และคณะนิติศาสตร์มีแผนการจะใช้พื้นที่นี้ทำอย่างอื่น

 

ส่วนพื้นที่ทางอธิการบดีจัดให้ขายบริเวณโรงอาหารกลาง เป็นพื้นที่ปิด มีขนาดเล็กคับแคบ ใกล้ทางลงชั้นใต้ดิน ต้องไปตกแต่งใหม่ทั้งหมด และมีเวลาขายจำกัด เช่น เลิกเวลา 17.00 น. ไม่เหมาะและไม่คุ้มกับการเปิดร้าน

 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องเร่งหาทางช่วยเหลือดูแลกลุ่มคนพิการซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ ให้มีที่ทำกินและเลี้ยงชีพได้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้โอกาสในการใช้พื้นที่ธรรมศาสตร์ทำกินแก่คนเล็กคนน้อย กรณีเบอร์นาร์ด ยูโด ขายถั่วมากว่า 50 ปี

 

 

ขอขอบคุณ  https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_5100825

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *