นายวีระ โพธิ์งาม อดีตพนักงานเก็บขยะเทศบาลตำบลหลุบ ถูกรถกระบะชนขาขาด กลายเป็นคนพิการ ครอบครัวเดือดร้อนหนัก
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด “ลุงเก็บขยะ” ชาวเมืองน้ำดำโชคร้ายถูกกระบะพุ่งชนขณะตะลอนเก็บขยะจนขาขาดทั้งสองข้าง กลายเป็นคนพิการทำงานไม่ได้ ครอบครัวเดือดร้อนหนัก เพราะเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ซ้ำมีภาระดูแลลูกป่วยพิการทางสมอง วอนสังคมช่วยเหลือ
จากเหตุการณ์ นายวีระ โพธิ์งาม อายุ 66 ปี ชาวบ้านบ้านดอนสนวน ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ อดีตพนักงานเก็บขยะของเทศบาลตำบลหลุบ ประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ขาขาดทั้งสองข้าง กลายเป็นคนพิการไม่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ ปัจจุบันครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะนายวีระเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่การเยียวยาจากกระบะคู่กรณียังไม่สามารถตกลงกันได้
ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น มีนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าเยี่ยมพร้อมมอบเครื่องยังชีพให้กำลังใจนายวีระ โพธิ์งาม ซึ่งนายวีระได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้าน โดยมีพระครูวินัยธรชัยวัฒน์ ญาณสํวโร รองเจ้าคณะตำบลหลุบ ประธานโครงการถนนสายบุญตำบลหลุบ พร้อมด้วยนายสงวน ดอนสินพูล ผู้อำนวยการ รพ.สต.หลุบ, นายสุนทร บุญไสว นายกเทศมนตรีตำบลหลุบ และผู้นำชุมชน อสม.ร่วมมอบถุงยังชีพ
ทั้งนี้ สภาพบ้านนายวีระเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง ชั้น 2 โล่ง ไม่มีฝาผนังล้อม ทุกคนในครอบครัวต้องนอนพักอาศัยใต้ถุนบ้าน นำเตียงนอนมาตั้งบนพื้น มีสังกะสีล้อมรอบไว้บังลม บังฝน โดยนายวีระได้เป่าแคนโชว์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ตัวเอง และครอบครัวอีกด้วย
นายวีระ โพธิ์งาม กล่าวว่า ตนประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น.ขณะออกปฏิบัติหน้าที่เก็บขยะ โดยเดินทางไปกับรถขนขยะเทศบาลตำบลหลุบ พร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน เหตุการณ์เกิดจากถูกรถกระบะคู่กรณีพุ่งชนด้านหลังขณะตนกำลังจะกระโดดขึ้นบันไดหลังคารถ ทำให้ตนบาดเจ็บสาหัสถูกตัดขาใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง กลายเป็นคนพิการขาขาดตลอดชีวิต ไม่สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้
จากเคยเป็นเสาหลักเลี้ยงครอบครัวรวมทั้งหมด 10 ชีวิต โดยตนมีภรรยา ลูกสาวคนโตวัย 43 ปี ต้องตกงานมาเฝ้าพ่อ ลูกสาวคนรองวัย 40 ปีก็ถูกรถชนจนพิการ ลูกสาวคนที่ 3 มีครอบครัวที่ต่างจังหวัด และลูกชายคนเล็กวัย 30 ปีเพาะพันธุ์ลูกสุนัขขายรายได้ไม่แน่นอน ส่วนหลานยังเล็กเรียนหนังสืออยู่ ตนเสียใจมากต้องพิการตลอดชีวิต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ขณะที่คู่กรณียังไม่มาเยียวยาแต่อย่างใด แต่ทราบว่าอยู่ระหว่างเจรจากับเทศบาลตำบลหลุบ
ด้านพระครูวินัยธรชัยวัฒน์ ญาณสํวโร รองเจ้าคณะตำบลหลุบ ประธานโครงการถนนสายบุญตำบลหลุบ กล่าวว่า ตามที่คณะสงฆ์ตำบลหลุบร่วมกับชาวบ้านจัดโครงการถนนสายบุญมาตั้งแต่ปี 2561 ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ฐานะยากจน ทั้งความเป็นอยู่ อาชีพ การศึกษา โดย 2 ปีแรกช่วยเหลือไปแล้ว 3 ครอบครัว เป็นการซ่อมแซมที่พักอาศัยให้
ส่วนปีนี้คณะกรรมการโครงการถนนสายบุญมีมติให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายวีระ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ทำคุณงามความดีให้แก่สังคม เมื่อประสบอุบัติเหตุต้องกลายเป็นคนพิการ จึงเข้ามาช่วยเหลือทั้งการฟื้นฟูจิตใจและสภาพร่างกาย พร้อมทั้งจะต่อยอดยกระดับคุณภาพชีวิตบุตรหลานด้านทุนการศึกษา รวมทั้งซ่อมแซมที่พักอาศัยที่ทรุดโทรม ให้บังแดด บังฝน และลมหนาวให้ด้วย
ขณะที่นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ครอบครัวนายวีระผู้ประสบอุบัติเหตุ ฐานะทางบ้านยากจน มีบุตรหลานต้องเรียนหนังสือหลายคน ทั้งยังต้องเลี้ยงดูลูกสาวพิการทางสมอง จากสาเหตุถูกรถชนเมื่อ 2 ปีก่อนอีกด้วย ครอบครัวนายวีระจึงมีภาระรับผิดชอบมาก แต่มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุของนายวีระและภรรยา ลำพังเลี้ยงดูบุตรสาวพิการก็แทบจะไม่เพียงพอ ทางอำเภอจึงรับเข้ามาอยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ช่วยเหลือด้านต่างๆ ตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายวีระจะประสบอุบัติเหตุมีความสามารถเล่นดนตรีพื้นบ้านอีสานมาก่อน โดยเคยเป็นหมอแคนให้หมอลำหลายคน ต่อมาเป็นพนักงานประจำรถขนขยะเทศบาลตำบลหลุบ มีรายได้เดือนละ 9,000 บาท แต่เมื่อเป็นคนพิการและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จึงขาดรายได้ไปมาก
ทั้งนี้ ผู้มีความประสงค์จะบริจาคเข้าร่วมโครงการถนนสายบุญ ช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และช่วยเหลือครอบครัวนายวีระ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีโครงการถนนสายบุญ ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ เลขที่ 6794641208 บัญชี พระครูวินัยธรชัยวัฒน์ หมายเลขโทรศัพท์ 09-8894-0609