เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่จังหวัดนครปฐม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อำเภอกำแพงแสน ชุมชนบ้านยางพัฒนา ม.7 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อไปพบกับหมอแคน ที่มาอาศัย ที่ศาลาชุมชนบ้านยางพัฒนา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หมอ แห่ว หรือ นายเสม็ด เพชรบ้านนา อายุ 82 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 15 ม.4 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม เป็นคนพิการ ขาขวาขาดใต้เข่าลงมา ต้องใส่ขาปลอมเวลาเดิน ทำกิจวัตร เข้าห้องน้ำ และสามล้อโยก สภาพเก่า และด้านหลังรถสามล้อโยกมีถุงผ้าห่อแคนเอาไว้ และสายไมโครโฟนสภาพเก่า พร้อมหม้อแปล่าเก่าอีก 1 ชิ้น พร้อมขาปลอม ใส่ไว้ในตระกล้าด้านหลัง
จากการสอบถามนายเสม็ด เพชรบ้านนา หรือ ตาแห่ว อายุ 82 ปี เล่าว่าตนเองบ้านเกิดอยู่ที่ ม.4 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน และตนเองก็มีวงหมอแคนเพชรบ้านนา เป็นที่รู้จักแพร่หลายในสมัยนั้น งานบวช งานแต่ง งานโกนผม งานประจำปี ในชุมชนก็จะต้องนึกถึงวงหมอแคนเพชรบ้านนา ต้องหาจ้างมาเป่าแคน นางรำรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ต่างชอบฟ้อน ชอบรำ วงหมอแคนเพชรบ้านนา หลังจากนั้นหมอแห่ว ได้พลิกผันชีวิตตัวเอง หมดเนื้อ หมดตัว และได้เดินทางออกจากบ้านมาทำมาหากินอยู่ที่อำเภอกำแพงแสน ขายไอติม และก็ขายโรตี ต่อจากนั้นเมื่อประมาณปี 2548-2549 ได้ขับรถขายไอติม และประสบอุบัติเหตุถูกรถชนอย่างแรงจนต้องถูกตัดขาข้างขวาออก กลายเป็นคนพิการ ทางโรงพยาบาลก็ให้ตาแห่ว ฝึกและอบรม ทำไม้กวาดบ้าง และขายล๊อตตารี่ ทางเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับ ตาแห่ว ที่มีความถนัดทางด้านเป่าแคน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกใบอนุญาติประจำตัว ใบวนิพกเป่าแคน จากนั้นต่อมาได้กลับมาเช่าห้องที่อำเภอกำแพงแสนเอาไว้เป็นที่หลับนอนได้ระยะหนึ่งซึ่งทำให้ตาแห่วรับภาระไม่ไหว อีกทั้งรายได้ที่ได้รับจากภาครัฐรวมแล้วเดือนละ 1,600 บาท ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ออกไปเป่าแคน หน้าห้างโลตัส กำแพงแสน และวันไหนที่มีตลาดนัดคุณาวรรณ ตาแห่ว ก็จะไปเป่าเสียงแคนให้ประชาชนที่มาจับจ่าย เดินผ่านไปมา ยื่นเงิน แบ่งปันให้ตาแห่ว เอาไว้ใช้จ่าย ในการดำรงชีพ เพื่อที่จะได้มีแรง กำลังใจ ที่จะสู้ชีวิตต่อไป ถึงจะเป็นคนพิการ ขาขาด อายุมาก แต่ใจตาแห่ว สู้มาทั้งชีวิต ต่อมา ตาแห่วได้ออกจากห้องเช่ามาหลบร้อน หลบฝน หลบหนาว ที่ในหมู่บ้านชุมชนพัฒนา ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
วอนสังคมช่วยเหลือตาแห่วอายุ 82 ปี แถมพิการขาขาด รถสามล้อโยกก็ไม่ค่อยดีเวลาโยกไปข้างหน้าล้อจะหันออก แพมเพิสก็ต้องใช้เวลาขับถ่าย จะไหลออกมาเอง อั้นไม่อยู่ ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างมาก อีกทั้งขาปลอมก็ชำรุดใส่ไม่ได้ ทำให้การช่วยเหลือตัวเองลดลง อายุก็มาก แรงก็ไม่ค่อยจะมี แต่ตาแห่ว ก็ยังสู่ไม่ท้อ หากมีผู้ใจบุญต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ ตาแห่ว อายุ 82 ปี ได้ที่ธนาคารกรุงไทย. สาขา กำแพงแสน 7260550171 หรือสามารถสอบถามได้ที่หมายเลข 083-4334372 นางสาว มาลา คงใจมั่น 107/2 ม.7 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม คนที่ช่วยและคอยดูแลตาแห่ว
จากการสอบถามนางสาวมาลา คงใจมั่น อายุ 57 ปี เล่าว่า ตนเองได้ไปซื้อสิ่งของที่ห้างโลตัสกำแพงแสน และได้ยินเสียงแคนดังมา ได้มองไปตามเสียงพบชายสูงอายุ นั่งอยู่บนสามล้อโยกสีฟ้า จึงได้เดินไปดูพร้อมทั้งตกใจจึงได้ถามว่าตาจำ ฉันได้ไหม ในส่วนตาแห่ว บอกจำไม่ได้ จากนั้นนางสาวมาลา จึงได้ท้าวความถึงรุ่นพ่อ และแม่ของตน จนทำให้ตาแห่ว ร้องอ้อ บอกว่าจำได้ และทั้งสองสนทนากันไปมาจนรู้ว่าเป็นลูกพี่ ลูกน้องกัน นางสาวมาลาได้ให้เงิน ตาแห่วไว้ 200 บาทเอาไวซื้อของกิน ของใช้ นางสาวมาลา เห็นสีหน้าตาแห่วไม่ค่อยดีจึงถามว่าเป็นอะไรลุง และมีอาการปากสั่น และบ่น อยากกลับบ้านที่ไผ่หูช้าง
จากนั้นนางสาวมาลา ได้อาสาขับรถพาตาแห่ว ไปที่บ้านเกิด ต.ไผ่หูช้าง ไปพบกับหลานชาย ซึ่งหลานก็ไม่ยอมพูดกับตาแห่ว จึงได้บอกว่า ตาแห่ว ป่วยมากอยากมาพักที่บ้านหลังนี้ สุดท้ายตาแห่วก็ผิดหวัง ไม่ได้พักบ้านหลังดังกล่าว ทำให้ตาแห่ว เสียใจและผิดหวังที่ไม่ได้พักที่ตรงนั้น ต่อมา นางสาวมาลา จึงตัดสินใจพาตาแห่ว กลับมาที่บ้านยาง หรือชุมชนบ้านยางพัฒนา มาพักที่ศาลาไว้ก่อนที่จะหาที่อยู่เอาไว้ให้ตาแห่ว เอาไว้อาศัยหลับนอน หลบฝน หลบลมหนาว ซึ่งในช่วงนี้ตาแห่วเดินไปไหนไม่ได้เนื่องจากขาปลอมที่เคยสวมใส่หลุดออกและชำรุดมากไม่สามารถใช้งานได้ลำบากมาก รถสามล้อโยกก็ชำรุดจะไปซื้อสิ่งของกินของใช้ก็ลำบากนางสาวมาลากล่าว