ครม.อนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.แรงงานบังคับ เป็นของขวัญแรงงาน เพิ่มโทษหนัก กระทำเด็ก-สตรี-คนพิการ จำคุกไม่เกิน 20 ปี ปรับ 1 ล้านบาท… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/641099
เมื่อวันที่ 1พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ พ.ศ. … เนื่องจากประเทศไทย ต้องให้สัตยาบัน พิธีสารปีค.ศ.2014 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ภายในเดือนมิ.ย. โดยได้กำหนดพันธกรณีเฉพาะในการป้องกันแรงงานบังคับ การคุ้มครองเหยื่อ การเข้าถึง การเยียวยา รวมถึงการกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องมีนโยบายและแผนปฏิบัติการของประเทศ จึงเป็นที่มาของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว
ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ มีการกำหนดลักษณะความผิด ฐานใช้แรงงานบังคับ ให้หมายถึงผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงาน หรือบริการโดยไม่สมัครใจ ให้กับตัวเองหรือบุคคลที่สาม โดยการข่มขู่ ขู่เข็ญว่าจะลงโทษโดยมิชอบ หรือใช้กำลังประทุษร้าย ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้ และนำภาระหนี้สินของบุคคลนั้น หรือบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ หรือด้วยวิธีอื่นใด ที่ทำให้ไม่สามารถขัดขืนได้ ถ้าการกระทำแบบนั้นไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ร่างกฎหมายได้กำหนดบทลงโทษว่าหากผู้ใดกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 หมื่น-2 แสนบาท ต่อผู้เสียหาย 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีการเพิ่มกรณีที่มีการกระทำผิดต่อเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ หรือผู้มีกายพิการไม่สมประกอบ หากทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส หรือเป็นโรคร้ายแรงจนถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6-12 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ปรับตั้งแต่ 6 แสนถึง 1ล้าน 2 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม ยังกำหนดให้จัดตั้งกองทุน เพื่อป้องกันและปรามปรามการใช้แรงงานบังคับ เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำความผิด โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการ 2 คณะ คือ 1.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ที่มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และกำหนดมาตรการการป้องใช้แรงงานบังคับ และ 2.คณะกรรมการกองทุนเพื่อการป้องป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ.
ขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/politics/641099