ใครกำลังท้อแท้ต้องอ่าน! หญิงพิการแขนสองข้าง สู้ชีวิตรับจ้างทุกอย่างหาเลี้ยงตัวเอง

 ผู้สื่อข่าวได้พบหญิงสาวพิการไม่มีแขนทั้งสองข้างมาตั้งแต่กำเนิด สู้ชีวิตทำงานหาเลี้ยงตัวเองและหลานสาวที่มีลูกวัยเพียงขวบเศษอย่างไม่ย่อท้อวังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในพื้นที่บ้านคลองสะท้อน หมู่ 5 ต. โดยหญิงพิการดังกล่าวชื่อว่านางสาวรุ่งลาวัลย์ การิก อายุ 41 ปี ซึ่งเกิดมาก็มีความพิการทางร่างกายต่างจากคนอื่นทั่วไป เนื่องจากไม่มีแขนทั้งสองข้าง แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง ทั้งเรื่องของการทำกิจวัตรประจำวัน หุงหาอาหาร ปัดกวาดถูบ้าน และรับจ้างทั่วไป ตามแต่ใครจะมีน้ำใจหยิบยื่นโอกาสให้ และไม่เคยที่จะต้องขอหรือเรียกร้องสิ่งใดจากผู้อื่นหรือหน่วยงานใดๆ

นางสาวรุ่งลาวัลย์เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับบิดามารดาซึ่งมีฐานะยากจน อาศัยรับจ้างทั่วไปเลี้ยงครอบครัวซึ่งมีตนเองและพี่สาวอีกหนึ่งคน แต่บิดาก็มาเสียชีวิตลงเมื่อตนเองมีอายุได้เพียง 5 ขวบ จากนั้นแม่ก็มีสามีใหม่ ก่อนที่พี่สาวจะมีสามีก็แยกครอบครัวพร้อมกับพาตนเองมาอาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อสามีที่วังสะท้อน อ.วังน้ำเขียว ด้วยความครอบครัวของพี่สาวนั้นยากจน พี่สาวกับสามีจึงทิ้งลูกสามคนเอาไว้กับตนเองและพากันไปหางานทำยังต่างจังหวัด ตั้งแต่ตนเองมีอายุได้ 25 ปี ซึ่งก็ต้องอาศัยรับจ้างทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานไร่ งานสวน โดยใช้เท้าทั้งสองข้างที่มีอยู่หรืองานที่ตัวเองพอจะทำได้ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองและหลานๆ จนแยกไปมีครอบครัวใหม่แล้ว 2 คน เหลือเพียงหลานสาวคนเล็กที่เพิ่งมีลูกอายุเพียงขวบเศษ ที่อยู่ร่วมชายคาช่วยเหลือกันทำมาหากินตามยถากรรม ส่วนทั้งพี่สาว พี่เขย และหลานๆ ที่แยกไปมีครอบครัวใหม่ ก็ยังคงมีฐานะยากจนทำมาหากินค่อนข้างลำบากจึงไม่สามารถจุนเจือมาดูแลตนเองได้เท่าที่ควร แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตเพราะที่ผ่านมาก็ดิ้นรนสู้เพื่อตัวเองและคนรอบข้างมาโดยตลอด

นางสาวรุ่งลาวัลย์กล่าวอีกว่า เพื่อนบ้านทุกๆ คนที่รู้จักต่างล้วนแต่มีน้ำใจ จุนเจือข้าวของจำเป็นในการดำรงชีวิต และหยิบยื่นงานต่างๆ มาให้โดยไม่มีใครรังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นงานเก็บพริก เก็บข้าวโพด ถางหญ้า ถึงแม้ว่าตนจะทำงานช้ากว่าคนอื่น แต่ก็ยังมีความเมตตาจ้างตนเพื่อให้ได้มีรายได้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากผู้นำชุมชนและชาวบ้านจัดหาที่ดินให้ได้ปลูกพุทรานมสดจำนวน 1 ไร่ เพื่อไว้ให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง โดยมีทางสำนักงานเกษตรอำเภอวังน้ำเขียวเข้ามาให้การดูแลแนะนำตั้งแต่เริ่มและจะช่วยเหลือไปจนกว่าจะพร้อมทำด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวังน้ำเขียว หรือ กศน.อำเภอวังน้ำเขียว ยังให้โอกาสตนได้เรียนต่อจนจบชั้นประถมศึกษาแล้ว ปัจจุบันเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และตนก็ตั้งใจว่าจะเรียนให้ถึงระดับปริญญาตรีให้ได้

ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8106

ขอขอบคุณจาก https://www.matichon.co.th/region/news_517486

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *