เพราะต้องการสร้างการตื่นตัวในสังคมเกี่ยวกับการส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิของคนพิการ รวมถึงสนับสนุนการสร้างเสริมศักยภาพของคนพิการให้สามารถดำรงชีวิตได้เท่าเทียมกับคนทั่วไป
สำหรับในประเทศไทย ภาครัฐให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมให้กับประชากรผู้พิการที่มีอยู่ในไทยประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ จึงได้ออกพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมีการกำหนดไว้ในมาตรา 33, 34 และ 35
ซึ่งมาตรา 33 กำหนดไว้ว่าหากสถานประกอบการใดมีพนักงานถึง 100 คน ต้องจ้างงานคนพิการ 1 คนต่อพนักงาน 100 คน หากไม่จ้างจะต้องทำตามมาตรา 34 คือจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และมาตรา 35 กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 และ 34 สถานประกอบการต้องให้สัมปทานจัดสถานที่จำหน่ายสินค้า ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก
หากพูดถึงองค์กรเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้พิการมาเป็นระยะเวลานาน และมีการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการเกินกว่าจำนวนที่กำหนด คงกล่าวได้ว่าต้องมีบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน โดยตอนนี้กลุ่มเซ็นทรัลมีแรงงานผู้พิการเป็นพนักงานประจำ 760 คน มีสวัสดิการเหมือนพนักงานปกติ และล่าสุดวางโครงการผลิตศูนย์พัฒนาทักษะแรงงานผู้พิการระดับ world class โดยมีเป้าหมายจะทำให้เสร็จ
“ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส Sustainable Development บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กลุ่มเซ็นทรัลให้ความร่วมมือตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการมาแล้วกว่า 11 ปี แต่จากการดำเนินงานในปีแรก ๆ เริ่มพบปัญหาการขาดแคลนแรงงานผู้พิการที่สามารถทำงานได้ โดยเมื่อคำนวณจากจำนวนพนักงานทั้งหมดของกลุ่มเซ็นทรัลที่มี 73,000 คน เท่ากับว่าเราต้องจ้างผู้พิการ 730 คน
และอีกปัญหาคือการลาออกของผู้พิการมีอัตราสูง แต่ละองค์กรจึงมีอัตราแรงงานผู้พิการลาออกราว 50-60% ที่เป็นเช่นนี้เพราะสังคมไทยไม่ได้เตรียมความพร้อมให้ผู้พิการสู่โลกการทำงาน จนทำให้พวกเขาปรับตัวไม่ได้
“ถึงแม้มาตรา 34 จะเป็นเรื่องง่ายกว่าการปฏิบัติตามมาตราอื่นเกี่ยวกับแรงงานผู้พิการ แต่ทางเซ็นทรัลมองว่าการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ปัจจุบันกองทุนมีเงินสะสมถึง 1.2 หมื่นล้านบาท) ไม่ใช่เรื่องที่ยั่งยืน และเป็นการผลักภาระของสังคม ซึ่งไม่ใช่นโยบายของกลุ่มเซ็นทรัล เพราะในทุกเรื่องที่เราทำภายใต้โครงการเซ็นทรัลทำ ซึ่งเป็น CSV (creating shared value) สร้างคุณค่าร่วมให้สังคมไทย ต้องเป็นการทำงานทางสังคมอย่างมีระบบ มีวัตถุประสงค์ และมีปรัชญาการทำงานที่ชัดเจน”
“ดังนั้น ถ้ามองย้อนกลับไป 6 ปีที่เราทดลองหลาย ๆ อย่างเพื่อส่งเสริมการจ้างงานผู้พิการอย่างจริงจัง จนไปร่วมมือกับมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นทั้งโรงเรียน และศูนย์ฝึกอาชีพ รวมถึงเลี้ยงดูผู้พิการ โดยช่วงแรกเราขอให้มูลนิธิผลิตแรงงานผู้พิการให้เราด้านช่างอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน ป้อนหน่วยงานศูนย์ซ่อม Power Buy และพบว่าจากนั้นเป็นต้นมา เราไม่มีอัตราการลาออกของแรงงานคนพิการเลย เพราะพวกเขาพักอยู่ที่มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมาก และมีความสุขกับสภาพแวดล้อม ถึงตอนนี้เรามีพนักงานผู้พิการใน Power Buy ในตำแหน่งคอลเซ็นเตอร์ด้วย”
ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 0-2572-4042 ต่อ 8106
ขอบคุณจาก https://www.prachachat.net/csr-hr/news-263599