1. การขอรับเงินค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย 🏠
สำหรับคนพิการเพื่อความสะดวกโดยอาศัยการออกแบบ การซ่อมแซม การก่อสร้าง การใช้เทคโนโลยี หรือวิธีการอื่นใด เพื่อขจัดอุปสรรค หรือจัดให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตในที่อยู่อาศัยนั้นได้และเหมาะสมกับสภาพความพิการ รวมถึงเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้ปรับขึ้นอัตราวงเงินใหม่ในการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้คนพิการ (ค่าซ่อมบ้านคนพิการ) เหมาจ่าย 20,000 บาท เป็น ไม่เกิน 40,000 บาท โดยท่านจะได้รับการประเมินราคาในการซ่อมแซมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ประเภทและรายการที่จะขอรับเงินค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพแวดล้อมหรือซ่อมแซม (ต้องมีสภาพที่ไม่มั่นคงแข็งแรง)
- ห้องน้ำ
- ทางเดินภายในบ้าน
- บันไดติดตั้งราวจับพยุงตัวที่แข็งแรง
- หลังคา / ชานบ้าน
- รายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยมีความมั่นคงและปลอดภัย
คุณสมบัติผู้ขอรับเงินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านคนพิการ
- มีบัตรประจำตัวผู้พิการ
- อยู่อาศัยในบ้านเกิน 6 เดือน
- ต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่มั่นคงแข็งแรง
- มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะซ่อมแซม
- ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ
เอกสารหลักฐานการขอรับเงิน
- แบบรายงานการสอบสภาพครอบครัวคนพิการ
- ประมาณการค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพบ้าน
- บัตรประจำตัวคนพิการ
- ภาพถ่ายสภาพบ้านของคนพิการ
2.บริการครอบครัวอุปการะคนพิการ 🤝
ครอบครัวอุปการะคนพิการ คือ บริการให้คนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลได้อยู่กับครอบครัว ได้รับการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งของครอบครัว ชุมชน และสังคม รวมทั้งบรรเทาปัญหาของคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล รอเข้าอยู่ในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ โดยการสนับสนุนค่าตอบแทนในการดูแลคนพิการ และค่าใช้จ่ายสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับคนพิการ
การยื่นขอเป็นครอบครัวอุปการะคนพิการ มีหลักเกณฑ์และคุณสมบัติดังนี้
• ผู้ขออุปการะคนพิการ หมายความว่า ผู้มีความประสงค์จะอุปการะเลี้ยงดูคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลคนพิการ (ผู้ดูแลคนพิการ หมายถึง บิดา มารดา บุตร สามี ภรรยา ญาติ พี่น้อง หรือบุคคลในครอบครัว) ให้คนพิการได้รับปัจจัยสี่ ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิ การคุ้มครองสวัสดิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนส่งเสริมให้คนพิการมีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นพลเมืองดี
• ครอบครัวอุปการะ หมายความว่า ผู้ขออุปการะคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลหรือมีแต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ โดยได้รับการสนับสนุนค่าตอบแทนในการเลี้ยงดูคนพิการ และค่าใช้จ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเฉพาะคนพิการสำหรับการดำรงชีวิต ตามความจำเป็นและเหมาะสม
• คุณสมบัติผู้ขอเป็นครอบครัวอุปการะคนพิการ
1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเห็นสมควร
2. มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และที่อยู่นั้นจะต้องถูกสุขลักษณะ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
3. มีอุปนิสัยและความประพฤติเหมาะสมที่จะเป็นผู้อุปการะคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล
4. มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
5. มีเวลาในการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ ให้คนพิการได้รับปัจจัยสี่ ส่งเสริมให้คนพิการมีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นพลเมืองดี
• คุณสมบัติของคนพิการ ที่ได้รับการขอเป็นครอบครัวอุปการะคนพิการ
1. มีบัตรประจำตัวคนพิการ
2. ไม่มีผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือมีแต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้
3. ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งหรือที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงไม่เหมาะสม
4. ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
5. ไม่ได้รับความช่วยเหลืออื่นจากรัฐหรือช่วยเหลือแต่ไม่เพียงพอ
• การสนับสนุนค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนในการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ
1. ค่าตอบแทนในการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการเบิกแบบเหมาจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน/คนพิการหนึ่งคน
2. ค่าใช้จ่ายเครื่องอุปโภค-บริโภค ที่จำเป็นเฉพาะคนพิการ สำหรับการดำรงชีวิต ให้เบิกจ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อเดือน/คนพิการหนึ่งคน
3.การรับคนพิการเข้าสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ 🏢
คนพิการที่ประสบปัญหาทางสังคม ไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู สามารถเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการได้
หลักเกณฑ์ในการรับคนพิการเข้าในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ
• กรณีปกติ
- ศูนย์บริการคนพิการ โรงพยาบาล เรือนจำ ให้ประสานงานไปยังกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ
- เสนอให้อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอนุมัติรับเข้า
- สถานคุ้มครองสอบประวัติ ตรวจทรัพย์สิน ตรวจสุขภาพ
- ทีมสหวิชาชีพคัดกรองคนพิการเข้าสถานคุ้มครอง
- สถานคุ้มครองจะต้องทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขออนุมัติรับคนพิการ
• กรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน (ถูกละเมิด ถูกทารุณกรรม)
- ศูนย์บริการคนพิการ โรงพยาบาล เรือนจำ ให้ประสานงานไปยังกองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ
- สถานคุ้มครองละพัฒนาคนพิการดำเนินการเบื้องต้นและให้การคุ้มครองฉุกเฉิน
- ให้คนพิการรับเข้าไม่เกิน 15 วัน และดำเนินการด้านเอกสารการตรวจร่างกาย สุขภาพ และให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
- สถานคุ้มครองฯ แจ้งอย่างเป็นทางการ และนำเข้าระบบปกติ
การคุ้มครองและให้บริการ
1. ประเมินและคัดกรองคนพิการโดยทีมสหวิชาชีพ
2. การวางแผนการฟื้นฟูรายบุคคล (IRP/ IEP)
3. การบำบัด ฟื้นฟู เเละพัฒนาคุ้มครองคนพิการด้านต่างๆ โดยทีมสหวิชาชีพ ได้แก่
- นักสังคมสงเคราะห์: ตรวจสอบสิทธิ นำพาเข้าถึงระบบบริการพื้นฐาน เตรียมครอบครัว
- นักกายภาพบำบัด: ประเมินและฟื้นฟูทักษะการเคลื่อนไหว การทรงตัว การจัดปรับอุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ
- นักจิตวิทยา: ประเมินสภาพจิต ให้คำปรึกษาจัดกิจกรรมกลุ่มบำบัด
- นักส่งเสริมพัฒนาการ: จัดการศึกษาที่เหมาะสม จัดกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาตามโปรแกรมและส่งเสริมการศึกษา
- พี่เลี้ยง: ฝึกกิจวัตรประจำวัน (ADL) กีฬา นันทนาการตามความสนใจ
4. การติดตามประเมินผลทุก 6 เดือน และปรับแผนการฟื้นฟูรายบุคคล IRP/IEP
5. จัดเตรียมทักษะสังคมก่อนส่งกลับ
การส่งต่อคนพิการออกนอกสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ
- กลับครอบครัวเดิม
- เข้าทำงาน ในสถานคุ้มครองๆ หรือในสถานประกอบการ
- อยู่กับครอบครัวทดแทน
กระบวนการเตรียมความพร้อมคนพิการ
- ทักษะการทำงาน
- ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
- ทักษะชีวิต : การใช้เงิน กด ATM การเลือกคู่ครอง
การเตรียมความพร้อมสถานประกอบการ
- การทดลองงาน/การติดตามเฝ้าระวัง
6. การจำหน่ายออก (เมื่อมีความพร้อม : อยู่กับครอบครัวได้ / มีงานทำและอยู่ได้ด้วยตนเอง / แต่งงานสร้างครอบครัวใหม่)
สถานที่ติดต่อ
กรุงเทพมหานคร : กองคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคนพิการ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร สายด่วน 1300
ต่างจังหวัด : ศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
สอบถามเพิ่มเติมที่ สายด่วนคนพิการ โทร 1479