บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ประกาศงดการช่วยเหลือหนุ่มพิการ หลังจากโดนพี่สาวนำเงินบริจาคกว่า 5 แสนบาทไปใช้จนหมด พร้อมประกาศจะช่วยเหลือใครหลังจากนี้จะไตร่ตรองเป็นอย่างดี
จากกรณี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวที่มีน้องชายเป็นคนพิการ รวมถึงได้ขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือหนุ่มคนดังกล่าว แต่ล่าสุดเกิดเรื่องขึ้นเมื่อ พี่สาวของชายพิการ ได้นำเงินบริจาคที่ได้จากการช่วยเหลือกว่า 5 แสนบาทไปใช้จนหมด
ทำให้ล่าสุด บิณฑ์ ต้องโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยมีใจความว่า “สวัสดีครับเพื่อนๆ ก่อนอื่นผมต้องขอกราบขอโทษเพื่อนๆ ด้วยนะครับที่ผมไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบครอบนี้ก่อนที่จะให้เพื่อนๆได้ช่วยเหลือ นายเพทาย กับ พี่สาว น.ส. เกษราภรณ์ ทูลแรง ซึ่งนะตอนนั้น กระผม ได้คุย กับทั้ง พี่สาว และน้องชาย จึงเกิดความสงสารเป็นยิ่งนัก และไม่คิดว่า พี่สาวจะทำกับน้องชาย ซึ่งเป็นผู้พิการ ได้ลงคอ”
“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อวานนี้ ผมนัดมาเคลียร์ต่อหน้า ท่านรองผู้กำกับ สถานีตำรวจบางแก้ว และได้ ตรวจสอบบัญชี ที่เพื่อนๆ ได้เข้ามาช่วยเหลือ เป็นเงินทั้งสิ้น 475,000บาท แต่เมื่อวานนี้ พี่สาวตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่าเงินหมดแล้ว ใช้กิน ใช้เที่ยว ซื้อของ โอนเงินเข้าบัญชี น้องชาย เจ็ดหมื่นบาท ซื้อแหวนให้น้องสะใภ้ ครึ่งสลึง 2 วง สร้อยคอทองคำ 2 สลึง 1 เส้น รวมแล้ว ก็ไม่ถึงแสน สรุปว่า พี่สาว ใช้เงินไปกับ กินเที่ยวเล่น กับสามีของเธอ เมื่อวานนี้ ผมเห็นสีหน้าของน้องเพทาย ที่ยังคงต้อง รักษา เรื่องดวงตา เรื่องไต ความดัน เบาหวาน แต่ต้องมาเจอกับสภาพนี้ เขาไว้ใจพี่สาวมาก เขาหวังว่า พี่สาวจะดูแลเขา”
“เขาจึงให้บัญชีพี่สาว กับผมมา แต่แล้ว ความหวัง ก็ได้พังทลาย เพราะความโลภของพี่สาว ซึ่งไม่ได้มองเห็นอนาคตข้างหน้าเลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพทาย เหมือนกับจะร้องไห้ เมื่อพี่สาวบอกว่า เงินหมดในบัญชีแล้ว จะให้ติดคุกก็ยอม จะให้ทำงานใช้หนี้ก็ยอม แต่คนแบบนี้ จะยอมทำงานใช้หนี้เหรอ ผมคิดเองนะ มีอีกกรณีหนึ่งผมว่านะ เขาพยายามเบิกเงินทุกวัน วันละ 20,000 บาท เพื่อจะให้เงินหมดในบัญชี แล้วเอาเงินที่เบิกมาเก็บไว้ เพื่อจะไม่ให้น้องชาย แล้วมาบอกกับผมว่า ไม่ไว้ใจ น้องสะใภ้ เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สั่งสอนไปเยอะ ทำให้คนอื่น เขาไม่อยากช่วยเหลือ ก็เพราะเป็นแบบนี้ พอมีเงิน นิสัยเปลี่ยน ความเป็นพี่เป็นน้องไม่นึกถึง.. สรุปว่า เมื่อวานนี้ ก็ไม่สามารถทำอะไรที่สาวได้ เพราะเพทาย ไม่อยากจะดำเนินคดี หรือเอาผิด ก็ให้มันไปตามเวรตามกรรม แต่เพทายนี้สิ จะต้องอยู่เนื้อโลกมืดอีกต่อไป ไม่รู้ว่า การรักษาของเขา จะสิ้นสุดวันไหน”
“เพื่อนๆ ครับ รายนี้จะเป็นรายสุดท้าย ต่อไปผมจะไตร่ตรองให้ดี จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ถ้าเกิดขึ้นอีก ผมก็คงจะหยุด ในการช่วยเหลือ เพราะไม่อยากจะสนับสนุนคนที่ไม่ดี ไม่อยากเอาเงินคนที่เขามีจิตศรัทธา เอามาให้กับคนที่ไร้จิตสำนึก มันเสียใจครับ ผมขอโทษครับ”