ไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทยเผย ฝ่ายจัดกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก “โตเกียว 2020” ประกาศคำขวัญประจำการแข่งขันออกมาแล้ว ใช้คำว่า “United by Emotion” หรือรวมกันเป็นหนึ่งด้วยอารมณ์ความรู้สึก สื่อถึงมิตรภาพและความสามัคคี ที่ทุกคนจะได้รับผ่านการมีส่วนร่วมในมหกรรมกีฬาครั้งนี้
วันที่ 17 ก.พ. 63 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) กล่าวว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก “โตเกียว 2020” ประกาศคำขวัญประจำการแข่งขันออกมาแล้ว โดยเลือกใช้คำว่า “United by Emotion” หรือ รวมกันเป็นหนึ่งด้วยอารมณ์ความรู้สึก เพื่อสื่อถึงมิตรภาพและความสามัคคีที่ทุกคนจะได้รับผ่านการมีส่วนร่วมในมหกรรมกีฬาครั้งนี้
ฝ่ายจัดการแข่งขัน “โตเกียว 2020” ระบุว่า สโลแกนดังกล่าว เน้นย้ำพลังของกีฬาในการนำพาผู้คนซึ่งมีภูมิหลังแตกต่างกันมากมายให้มาเจอกัน และเปิดทางให้พวกเขาเชื่อมถึงกันและเฉลิมฉลองร่วมกันในวิถีทางที่ข้ามผ่านความแตกต่างหลากหลายดังกล่าว ฝ่ายจัดยังเผยต่อว่า คำขวัญประจำการแข่งขัน คือ วิสัยทัศน์ของการแข่งขัน ซึ่งเจ้าภาพต้องการแบ่งปันร่วมกับคนทั่วโลก
“United by Emotion” สะท้อนความหวังว่า ผู้ชม, อาสาสมัคร และนักกีฬาจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติกว่า 200 ประเทศ ตลอดจนทีมโอลิมปิกผู้ลี้ภัย ที่มาชุมนุมกันในกรุงโตเกียวฤดูร้อนนี้ รวมถึงอีกหลายพันล้านคนที่ชมทางทีวี และออนไลน์ทั่วโลก จะมาร่วมมือกันและตระหนักว่า ยังมีสิ่งที่ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเรา มากกว่าสิ่งที่จะมาแบ่งแยกพวกเราจากกัน
“กีฬาทำให้คนเรามีโอกาสได้รับประสบการณ์ทางอารมณ์และความคลั่งไคล้ที่หลากหลาย และโอลิมปิกโตเกียว 2020 จะทำให้ผู้คนได้พบเจอกับความกล้าหาญและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันของนักกีฬา และส่งเสียงเชียร์พวกเขาออกมา นี่คือพลังที่ชัดเจนของกีฬา ความสามารถในการเชื่อมผู้คนเข้าด้วยกันผ่านอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา และนี่คือสิ่งที่ โตเกียว 2020 ต้องการฉายภาพให้เห็นด้วยคำขวัญ United by Emotion”
การฉลองเปิดตัวคำขวัญใหม่ของ “โตเกียว 2020” เจ้าภาพมีแผนใช้แสงเลเซอร์ยิงตัวอักษรบนผนังตึก Tokyo Skytree เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วไปรับทราบตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 มี.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์โดยให้นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสดาวรุ่งชื่อดัง มาบอกเล่าความเป็นมาของคำขวัญดังกล่าวให้ทั่วโลกได้รับทราบอีกด้วย
อนึ่ง โอลิมปิกสมัยแรกที่มีการนำคำขวัญประจำการแข่งขันมาใช้ คือ “มิวนิก 1972” ที่เยอรมนี โดยใช้คำว่า “The Happy Games” และนับตั้งแต่โอลิมปิก “โซล 1988” ที่เกาหลีใต้ ซึ่งใช้คำว่า “Harmony and Progress” การตั้งสโลแกนประจำการแข่งขันก็กลายเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันทุกครั้งเป็นต้นมา
สำหรับโอลิมปิก “บาร์เซโลนา 1992” ใช้คำว่า “Friends for Life”/ “แอตแลนตา 1996” ใช้คำว่า “The Celebration of the Century”/ “ซิดนีย์ 2000” ใช้คำว่า “Share the Spirit – Dare to Dream”/ “เอเธนส์ 2004” ใช้คำว่า “Welcome Home”/ “ปักกิ่ง 2008” ใช้คำว่า “One World, One Dream”/ “ลอนดอน 2012” ใช้คำว่า “Inspire a Generation” และ “ริโอ 2016” ใช้คำว่า “A New World”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thairath.co.th/sport/others/1773770