เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่บริเวณด้านหน้าศาลกลางจังหวัดยโสธร นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร รับมอบ หน้ากากอนามัยที่จัดส่งมาจากกระทรวงมหาดไทยถึงจังหวัดยโสธร ที่จัดส่งโดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จำนวน 7000 ชิ้น เพื่อมอบให้กับทั้ง 9 อำเภอ ของจังหวัดยโสธร นำไปแจกจ่ายไห้กับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ 4 กลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 : ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิด/สัมผัสผู้ป่วยในหมู่บ้าน/ชุมชน กลุ่มที่ 2 : ผู้ที่ปฏิบัติงานบริการที่ใกล้ชิดกับประชาชน กลุ่มที่ 3 : ผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง และกลุ่มที่ 4 : กลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเปราะบาง โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน
สำหรับการส่งมอบหน้ากากอนามัยในวันนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกระจายหน้ากาก และเวชภัณฑ์ สำหรับประชาชน เพื่อบริหารจัดการหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) และเวชภัณฑ์ มีความเพียงพอต่อความต้องการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จัดทำแผนการจัดสรรหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) สำหรับกลุ่มเสี่ยงในระดับพื้นที่ ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัด จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิด/สัมผัสผู้ป่วย ผู้ที่ปฏิบัติงานบริการที่ใกล้ชิดกับประชาชน ผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง และกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้พิการ เป็นต้น และจัดสรรเพิ่มให้แก่จังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดสูง
เพื่อให้การบริหารจัดการกระจายหน้ากากและเวชภัณฑ์สำหรับกลุ่มเสี่ยง เพียงพอต่อความต้องการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งมอบหมายให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ของจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับหน้ากากอนามัยเพื่อทำการตรวจนับความถูกต้องครบถ้วนของหน้ากากอนามัยที่ได้รับการจัดส่งจากบริษัทไปรษณีย์จำกัด พร้อมจัดทำบัญชีแผนการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยตามกลุ่มเป้าหมาย โดยให้จังหวัดพิจารณาแจกหน้ากากอนามัยที่ได้รับการจัดสรรให้เหมาะสม โดยปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นอย่างทั่วถึงและจัดทำเอกสารรับแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ชัดเจนในทุกระดับ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยในจังหวัด โดยกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนห้ามนำหน้ากากอนามัยไปใช้หรือแจกจ่ายเพื่อวัตถุประสงค์อื่นโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปใช้หรือมอบให้บุคคลที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และหากมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยในจังหวัดใดไม่เป็นไปตามที่กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อผู้เกี่ยวข้องโดยทันที
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200401173151275