ศธ. “ปรับบ้านเป็นห้องเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู”

 

ก.ศึกษาฯ 16 เม.ย.-รมช.ศึกษาฯ มอบนโยบายการศึกษาพิเศษ ปรับบ้านเป็นห้องเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู เตรียมการรองรับเปิดภาคเรียน โดยใช้การเรียนการสอนทางไกล

 

 

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.)เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้กับสถานศึกษา สังกัดสำนักบริหาร งานการศึกษาพิเศษทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์  โดยมี นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการ กพฐ. นายวุฒิศักดิ์ เหล็กคำ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 กระทรวงศึกษาธิการ

 

คุณหญิงกัลยา กล่าวถึงนโยบายสำคัญขณะนี้คือการเตรียมการรองรับการเปิดภาคเรียน  โดยใช้การเรียนการสอนทางไกล ซึ่ง ศธ.มีความคุ้นเคยกันมาพอสมควรแล้ว ตามที่เรียกกันว่า “ครูตู้” โดยต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้น ขณะเดียวกันต้องเตรียมกระบวนการบริหารจัดการการศึกษาพิเศษด้วยนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

โดยมีแพลตฟอร์มของ ศธ.เอง เพื่อเป็นเวทีเชื่อม 176 หน่วยงาน และโยงคนพิการทั้งประเทศให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา การพัฒนาตนเองได้มากขึ้น ตามแนวทาง “ปรับบ้านเป็นห้องเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู” โดยที่แพลตฟอร์มนี้ จะสามารถทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเรียนรู้วิธีการดูแล พัฒนาผู้เรียนที่พิการ ตามแบบต่าง ๆ ต่อไปได้  อีกทั้งยังสามารถบรรจุสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ การให้คำปรึกษา แนะนำ  และเรื่อง อื่น ๆ ไปยังหน่วยงาน สถานศึกษาในสังกัด ศธ. ได้ด้วย

 

 

ขณะนี้ ศธ. กำลังทำแพลตฟอร์มของโรงเรียนที่จัดการศึกษาพิเศษ คือ  เมื่อค้นหาเข้าไปก็จะทราบข้อมูลว่าจังหวัดนี้มีคนพิการประเภทใดบ้าง มีกี่คน บ้านอยู่ที่ไหน เป็นต้น  โดยดำเนินการได้แล้ว 3 จังหวัด และจะขยายผล ให้ครบทุกจังหวัด

 

นอกจากนี้ ศธ.ยังมีแนวทางสนับสนุนให้มีครูต่อจำนวนนักเรียน อย่างเหมาะสม รวมถึงเรื่องการสอบเลื่อนวิทยฐานะและการบรรจุครูการศึกษาพิเศษ เนื่องจากคนที่ทำงานเกี่ยวกับการศึกษาพิเศษ ต้องอยู่ประจำ และดูแลเด็กเหมือนเป็นพ่อแม่  ดังนั้น หน้าที่และความรับผิดชอบจะมีความแตกต่างจากครูประเภทอื่น จึงอยากสนับสนุนให้มีหนทางได้เลื่อนวิทยฐานะและบรรจุ โดยการแข่งขันกันเอง ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ. เห็นชอบหลักการให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ เพื่อให้เป็น ไปตามเจตนารมณ์ตามมาตรา 50 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งเลขาธิการ กพฐ.ก็เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส เพื่อให้ได้ครูที่มีความสามารถและเหมาะสม

 

 

สำหรับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นหน่วยงานสังกัด สพฐ.มีภารกิจหลัก คือจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสผ่านการให้บริการในรูปแบบที่หลากหลายและมีคุณภาพ  มีทักษะชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้ อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข  มีศักดิ์ศรี  มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสถานศึกษาในสังกัดฯ รวม 16 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ 51 แห่ง 2.โรงเรียนเฉพาะความพิการ 48 แห่ง และ 3.ศูนย์การศึกษาพิเศษ 77 แห่ง ทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก  https://www.mcot.net/viewtna/5e97e27de3f8e40aef42ca28

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *