ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือนถึงวันที่ 31 พ.ค.63 เปิดขายของ-เสริมสวย-ห้างประเมินทุก 14 วัน
วันที่ 27 เม.ย. ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 หรือ ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค. มีมติขยายเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค.2563 เนื่องจาก ประชาชนร้อยละ 70 เห็นด้วยกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้มีมติขยายเวลาออกไป
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า วันนี้ในที่ประชุม ได้มีการเห็นชอบตามหลักการที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เสนอต่อขยายเวลาการประกาศพระราชกำหนดฉุกเฉิน และประกาศห้ามออกนอกเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิวออกไปอีก 1 เดือน โดยการประเมินสถานการณ์ของ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสมช. รวมไปถึงความคิดเห็นของประชาชนกว่าร้อยละ 70 ทั้งนี้ยังมีการกำหนดให้แก้ไขประกาศเวลาเคอร์ฟิวในเวลา 22.00 ถึง 04.00 น เหมือนกันทั้งประเทศ
ขณะเดียวกันยังมีการระบุถึงการผ่อนปรนมาตรการคลายล็อคต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการ ศบค.ชุดเล็กร่างกฎหมายมาตราการผ่อนผันมาดยละเอียด ส่วนกิจการที่ได้รับการผ่อนผันนั้น จะไม่แบ่งพื้นที่จังหวัด แต่จะทยอยการปลดล็อค ไปในแต่ละพื้นที่โดยจะเน้นจากธุรกิจสีขาวก่อน เช่น ตลาดสด ตลาดนัดร้านเสริมสวย โดยจะมีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเข้าไปกำกับดูแล โดยจะมีการประเมินทุก 14 วัน
นอกจากนั้นในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้จะมีการเสนอเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ในช่วงเดือนพฤษภาคมออกไป และจะมีการชดเชยให้ในภายหลัง โดยคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงปลายปีนี้ ประกอบด้วย วันแรงงาน วันฉัตรมงคล วันวิสาขบูชา และวันพืชมงคล เนื่องจาก หากเป็นการหยุดตามปกติจะกลายเป็นวันหยุดยาว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขห่วงว่า จะมีการเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นจำนวนมาก