ศูนย์ข่าวนครราชสีมา– พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แม่ชาวโคราชใช้เวลาตกงานช่วงโควิด-19ระบาด ทุ่มเทดูแลลูกพิการจนสามารถมาเดินได้ราวปาฏิหาริย์ ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 11 นครราชสีมา หนุนหลักวิชาการพร้อมมอบอุปกรณ์การศึกษาช่วยเหลือ
วานนี้ (22 พ.ค.) ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 11 นครราชสีมา ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พร้อมด้วย ดร.รังสิสวุฒิ สุวรรณ์โรจน ผู้อำนวยการ ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 11 นครราชสีมา (ผอ.ศกศ.11 นม.) และกรรมการบริหาร ครูบุคลากร ทำพิธีมอบคูปองการศึกษา มีทั้งสื่อการเรียนการสอน สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องแบบนักเรียนและถุงยังชีพ ให้แก่นักเรียนจำนวน 859 คน รวมเป็นเงิน 1,718,000 บาท โดยมีครูในพื้นที่ต่างๆ เป็นตัวแทนรับมอบเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่นักเรียนที่มีความบกพร่องและพิการ
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน พัฒนาศักยภาพเด็กพิเศษ“การศึกษาพิเศษไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จากนั้นได้ร่วมกันปล่อยคาราวานรถมอบสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องแบบนักเรียน และปัจจัยพื้นฐานไปยังครอบครัวนักเรียนทุกสาขาประเภทความพิการและหน่วยบริการทั่วทั้ง 32 อำเภอใน จ.นครราชสีมา
ดร.รังสิสวุฒิ สุวรรณ์โรจน ผอ.ศกศ.11 นม. เปิดเผยว่า ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต11 ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ 5จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ มีเด็กพิการที่ดูแล 859 คนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีครูและนักกายภาพบำบัดรวมกว่า 100 คน ในช่วงการระบาดของโควิด -19 ทำให้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการเรียนการสอนของครู รวมถึงพัฒนาการของเด็ก ซึ่งขาดการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทางศูนย์ฯ จึงจัดส่งวัสดุทางการศึกษา สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์การเรียนไปให้นักเรียนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อไปเติมเต็ม ให้กับนักเรียนได้ใช้ประโยชน์และเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตในช่วงนี้
นอกจากนี้ทางศูนย์การศึกษาพิเศษเขต11 ยังจะได้พิจารณา ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่ครอบครัว ของ นักเรียนพิการที่ไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล ทั้งกรณีเงินเยียวยา 5,000 บาท สำหรับผู้ที่ขาดรายได้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงผู้ที่ไม่เป็นเกษตรกร หรือผู้ที่ตกสำรวจจากทางภาครัฐ ทางศูนย์ฯ มีกองทุน คุณพุ่ม เจนเซน ก็จะนำเงินไปช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ เพื่อ เป็นกำลังใจและช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวของเด็กพิการได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในภาวะวิกฤติของโควิด-19 ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเพราะผู้ปกครอง ได้มีโอกาสและมีเวลาได้อยู่กับบุตรหลานโดยเฉพาะผู้พิการ ซึ่ง ทำให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้น มีเวลาในการดูแล และใส่ใจ กับบุตรหลานที่พิการเหล่านี้ ซึ่งมีครอบครัวตัวอย่างหนึ่งที่ทำได้สำเร็จ คือ ครอบครัวของเด็กหญิงปีใหม่ อายุ 3 ขวบครึ่ง ชาว อ.โชคชัย ที่มีความ บกพร่องทางสมอง ไม่สามารถเดิน พูดและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ไม่มีเวลาที่จะดูแลลูกและทางแพทย์ให้ความเห็นว่า เด็กมีโอกาสน้อยมากที่จะเดินได้อาจจะอายุ 5 ขวบถึงจะเดินได้
แต่เมื่อแม่ ได้นำเด็กหญิงปีใหม่ เข้ามา ให้ศูนย์การศึกษาพิเศษฯ ทำการฟื้นฟู ร่างกาย และใช้หลักวิชาการในการเข้าช่วยสริม แต่ที่สำคัญคือพ่อแม่ ได้มีโอกาสใกล้ชิดลูกและดูแลในช่วงการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้น้องปีใหม่ สามารถ เดินได้อย่างปาฏิหาริย์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความสุข และความดีใจให้กับครอบครัวของเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก
ฉะนั้น ในวิกฤตยังมีโอกาส แม้จะมีโรคระบาด แต่เราก็สามารถใช้วิกฤตินี้มาช่วยฟื้นฟูร่างกายของคนพิการให้กลับมาเป็นปกติ สามารถใช้ชีวิต อย่างคนปกติทั่วไปได้เหมือนครอบครัวน้องปีใหม่ ดร.รังสิสวุฒิ กล่าวในตอนท้าย
